
5 คนร้ายแก๊งค้ายาบ้าสุดเหิมขับรถปาดหน้า ก่อนฉุดสาวไปเรียกค่าไถ่ หน้าจวนผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ เหตุติดค้างค่ายาบ้า จับได้ 3 คน อีก 2 คนยังหลับหนี
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถเก๋งยี่ห้อเชฟโลเล็ต ขับตามเข้ามาปาดหน้ารถเก๋งของ น.ส.เอ ซึ่งมากับเพื่อนชายอีก 2 คน ก่อนที่จะมีชาย 2 คน สวมเสื้อสีแดงคนหนึ่งถือมีดยาวประมาณ 1 ฟุต พยายามลงทำร้ายเหยื่อ และกระโดดถีบกระจกรถ จากนั้นได้มีรถกระบะขับตามมาสมทบ ก่อนที่ชายอีก 1 คน จะลงมากระชากผม น.ส.เอ แล้วนำไปขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป และนำตัวน.ส.เอ ไปกักขังไว้ที่โกดังร้างข้างถนนทางเข้าตัว อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ และโทรศัพท์ไปหาพ่อ-แม่ ของน.ส.เอ เพื่อให้นำเงินมาไถ่ตัวจำนวน 350,000 บาท เพื่อแลกกับการไถ่ตัว
https://youtube.com/watch?v=69_faVIg5PY
โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งแกะรอยติดตามคนร้าย กระทั่งสามารถติดตามน.ส.เอ กลับคืนมาได้อย่างปลอดภัย และได้ทำการจับกุมตัวนายมานะศักดิ์ อุดมพันธ์ หรือเปรี้ยว อายุ 23 ปี, นายสุรศักดิ์ จันทร์เพ็ง หรือ แป๋ม อายุ 20 ปี และนายธนารัตน์ ภูโชคชัย หรือ โชค อายุ 23 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็น 3 ใน 5 คนที่ร่วมกันก่อเหตุ ทั้งนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุจริงโดยร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ที่กำลังหลบหนี
ส่วนสาเหตุที่ฉุดน.ส.เอ ไปเรียกค่าไถ่นั้น เพราะต้องการทวงเงินจำนวน 350,000 บาท ที่ น.ส.เอ ติดค้างค่ายาบ้า ซึ่งที่ผ่านมาพยายามทวงหลายครั้งแต่ก็บ่ายเบี่ยงตลอด จึงต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดโดยการฉุดตัวขึ้นรถดังกล่าว และขยายผลตรวจยึดยาบ้าได้จำนวนหนึ่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.มหาสารคาม ซึ่งผู้ต้องหาไปเปิดไว้เป็นจุดพักยา

ล่าสุด 12 ก.ค. 61 นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งให้ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เร่งระดมชุดสืบสวนแกะรอยปูพรมไล่ล่าผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คนที่ยังหลบหนีคือ นายศุภมิตร บัญชา หรือแซม และนายมี่ เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย และจากการตรวจสอบประวัติยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกด้วย
ทั้งนี้เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนอีก 2 คน จะเร่งดำเนินการจับกุมตัวให้เร็วที่สุด
อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews









