คนงานตัดปาล์ม พบศพชายถูกลวงมายิงทิ้ง ขึ้นอืดริมแม่น้ำตาปี

ประเด็นคือ – พบศพชายวัย 37 ปี ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง เสียชีวิตริมฝั่งเเม่น้ำตาปี เผย ผู้ตายเคยถูกลอบยิงมาเเล้วก่อนหน้านี้ เเต่รอดมาได้ คาดเป็นมือปืนรายเดิมลวงมายิงทิ้ง 

วันที่ 14 พ.ย. 60 พ.ต.อ.ปรีชา ปัญญาเลิศ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งมีคนพบศพขึ้นอืดอยู่ข้างสวนปาล์ม ริมแม่น้ำตาปี ติดกับถนนสายเอเชีย 41 ขาขึ้นกรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.พงศ์ศักดิ์ วิทย์การพงษ์ รอง ผกก.ป.ร.ต.อ.อนันต์ พานิชกุล รอง สว.สอบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลทุ่งใหญ่  หน่วยกู้ภัยศรัทธาสามัคคี และอาสาสมัครใต้เต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุข้างลานก่อสร้างพระพุทธรูปนับร้อยองค์ ของวัดนิรนาม บ้านตะราง หมู่  4 ต.ทุ่งใหญ่ พบศพชายทราบชื่อนายวิรัตน์ สิงห์สิทธิ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 4 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ สภาพศพหัวทิ่มอยู่ริมป่าสวนปาล์ม มีหนอนไต่ยั้วเยี้ย ตรวจสอบพบมีรอยกระสุนปืนลูกซองยิงเข้าที่ไหล่ซ้าย และใบหน้าหลายรู น้ำเหลืองปนเลือดไหลนอง เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ข้างหน้าพระพุทธรูป พบรองเท้าแตะตกอยู่ 1 คู่ ก้นบุหรี่ 4 มวน พร้อมหมอนรองกระสุนปืนชนิดลูกซอง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง รอง ผกก.สส.เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าเมื่อเดือนก่อนนายวิรัตน์ ผู้ตาย เคยถูกคนร้ายลอบยิงมาแล้วหนึ่งครั้งที่หน้าบ้าน แต่กระสุนไม่โดน จึงรอดหวุดหวิด คาดว่าคนร้ายรายเดิมที่มีความแค้นส่วนตัวเรื่องธุรกิจที่ไม่สามารถเปิดเผย ลวงผู้ตายมาพูดคุยตกลงปัญหาบางอย่างกันที่เกิดเหตุ แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต แล้วลากศพไปโยนทิ้งให้พ้นลานกว้างหน้าพระพุทธรูป ซึ่งเป็นสวนปาล์มของชาวบ้าน

ต่อมาคนงานมาตัดปาล์ม ได้กลิ่นเหม็นของศพ จึงเดินหาและพบ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตามพอจะทราบข้อมูลความขัดแย้งระหว่างผู้ตายกับคู่กรณีแล้ว และทราบว่าใครโทรหาให้ผู้ตายออกจากบ้านเมื่อ 2 วันก่อน แต่ยังเปิดเผยไม่ได้เกรงจะเสียรูปคดี หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับคนก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป