
1 ปีกับการต่อสู้เพื่อการตายของ “เสือดำ” สัตว์ป่าแห่งทุ่งใหญ่นเศวร ผืนป่าอุดมสมบูรณ์ของเมืองไทย “วิเชียร ชิณวงษ์” เปิดใจไม่มีเฉออกนอกเส้นทางอนุรักษ์สัตว์ป่า ประกาศจะสู้ต่อแม้จะต้องถึง “ยก 3”
“หัวหน้าวิเชียร” หรือ วิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขต
ในงานเสวนาที่จัดขึ้นโดยชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม และมูลนิธิสืบนาคะเสถียร วันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา “หัวหน้าวิเชียร” ได้เปิดเผยความรู้สึกเป็นครั้งแรกหลังจากศาลจังหวัดทองผาภูมิ มีคำพิพากษาในคดีล่าเสือดำ โดยเจ้าตัวยอมรับว่า ควรจะสู้ต่อในศาลอุทธรณ์ เพราะจากหลักฐานที่อยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุ “หนังเสือ” ก็อยู่ห่างเต็นท์ไปไม่ถึง 10 เมตร ที่แคมป์ก็มี “ซุปหางเสือ” อยู่ในหม้อ มีกระดูกที่เขากินแล้วหล่นอยู่กับพื้น ถุงที่ใส่มืออยู่ในถุงดำที่พบในแคมป์
อย่างนี้มันใช่การครอบครองหรือเปล่า? หัวหน้าวิเชียรเอ่ยถามกลางวงเสาวนา และยังเปิดเผยความในใจ ว่า เมื่อวานก็เป็นยกแรก อีกสองยกนะครับ
1 ปีที่ผ่านมาแบกรับความคาดหวังและก็มีหลายๆ คน คิดไปต่างๆ นานาว่า มันจะแป้กหรือเปล่าคดีนี้หรือมวยล้มอะไรหรือเปล่า ปีนึงที่เราแบกความคาดหวังไว้ ได้ปลดเปลื้องความหนักบนบ่าลงไปช่วงคราว 1 วันนะครับ และก็ได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ การบังคับใช้กฎหมายไม่แบ่งชนชั้น ไม่เลือกแบ่งฐานะน่าจะเป็นสิ่งที่ดีให้กับสังคมไทยได้เห็นตัวอย่าง
ในส่วนของผมและเจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่ฯ ขอเรียนตามตรงว่า ในเรื่องของการซูเอี๋ยหรือรับผลประโยชน์ ทุ่งใหญ่ฯ ผมถือว่า เป็นพื้นที่ที่ได้รับการปลูกฝังมานานเคยมีเหตุการณ์บางอย่าง ซึ่งในอดีตมีผู้มีอิทธิพล ข้าราชการระดับสูงเข้ามาทำความผิดกับสัตว์ป่า ล่าสัตว์ป่าแล้วก็มีข่าวใหญ่โตอยู่พักนึง ท้ายที่สุดคนที่เป็นลูกน้องก็เป็นผู้ที่รับโทษไป ตัวใหญ่ ผู้บงการก็ลอยนวล
ซึ่งคนทุ่งใหญ่ฯ ก็เจ็บช้ำน้ำใจมาพอสมควร แล้วก็คดีนี้มันเหมือนกับว่า ซ้ำรอยซึ่งผมว่าความรู้สึกของคนทุ่งใหญ่ฯ เคยถูกย่ำยีอยู่มาในลักษณะนี้เป็นตัวขับเคลื่อนผลักดัน หมายความว่า มันฝังใจอยู่ของคนทุ่งใหญ่ฯ ในเมื่อหลายคดีที่ผ่านมา ผู้กระทำความผิดที่เป็นตัวใหญ่หลุดรอดจากคดี ทีนี้พอมาคดีคุณเปรมชัย เราก็เอาความรู้สึกในอดีตนั้นมาเป็นเรียนรู้และเป็นบทเรียน

(แฟ้มภาพ)
ทุกคนที่เข้าไปเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 4 จนถึงวันที่ 6 ที่พบเสือดำ ทุกคนน้ำตาคลอเบ้าเลยนะครับ ทุกคนไม่มีความสุขเลย แล้วก็ส่ายหัวเลยว่า เอ…พื้นที่ที่มีการดูแลอย่างเข้มแข็งอย่างทุ่งใหญ่นเรศวร คนกล้ามาทำแบบนี้อีกเหรอ และกล้าในลักษณะที่ว่าไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ แม้แต่กระทั่งเจอนายธานี (นายพราน) อยู่ที่ถนนกำลังจะยิงสัตว์ มีอาวุธปืน ตอนที่ควบคุมตัวเขาไป เขาไม่มีความตื่นกลัวเลย ไม่มีอาการประหม่า หรือว่าเกรงกลัวว่าเจ้าหน้าที่จะจับกุมดำเนินคดี หรือว่าเขาคิดว่า “ลูกพี่ข้าใหญ่โว้ย จัดการได้หมดหรือยังไง”
หรือแม้กระทั่ง ผมนะครับถ้าเจ้าหน้าที่เชิญออก มีของผิดกฎหมาย ผมจะรีบเผ่นเลย ถ้าลับตาเจ้าหน้าที่ ผมจะรีบเผ่น เก็บของใส่กระเป๋าให้หมดแล้วออกเลย แต่นี่กลับกล้าต่อรองมาขอค้างอีกคืนนึง ผมก็ไม่รู้ว่าเขาฉลาดหรือเขากล้ากันแน่ ถ้าเป็นผมพอลับตาเจ้าหน้าที่ ผมก็จะเอาหนังเสือดำมาใส่รถแล้วกลับเลย แต่อันนี้ก็คืออาจสื่อถึงว่า คนแบบนี้ที่อาจารย์ท่าน (ศศิน เฉลิมลาภ) ได้เอ่ย “มันมีด้วยเหรอ มันมีด้วยเหรอ”
ส่วนของเจ้าหน้าที่ในวันนั้น ไม่มีใครมีความสุขเลย แล้วเหมือนว่า ไอ้เสือเนี่ยเราก็เห็นมันอยู่เรื่อยๆ เสือดำเนี่ยบางคนก็บอกว่า มันเคยมานอนอยู่แถวๆ บ้านเจ้าหน้าที่ด้วยเป็นบางครั้งบางคราว ทีนี้พอมันไม่อยู่แล้วโดนแก๊งนี้ฆ่า ความรู้สึกจริงๆ บางคน พูดกันหยาบๆ “หัวหน้าจัดการมันเลยไหม เอาตรงนี้แหล่ะ” แซวเล่นนะครับ ซึ่งตรงนี้ผมว่า มันน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวการทำงานคดีนี้ มันจะเฉออกนอกทางไม่ได้เลย ถึงแม้ว่า หัวหน้าชุดจับกุมจะมีความคิดในทางเลวๆ ว่า จะไปเรียกรับหรือยอมรับผลประโยชน์ แต่ลูกทีมไม่เอาด้วย คือระบบมันเป็นอย่างนี้มา มันทำให้ไม่มีคนใดคนนึงสามารถเดินออกนอกทางที่คิดไว้ ไม่มีใครสามารถเดินออกนอกเส้นทางของการอนุรักษ์สัตว์ป่าได้เลยของทุกใหญ่นเรศวรก็เป็นจุดแข็งของพื้นที่ของบุคลากร
ส่วนมวยยกที่ 2 ผมก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มชกกันวันไหน ผมก็อยากจะไปขอคำแนะนำปรึกษา หรือว่าถ้ามีโอกาสผมในฐานะลูกความ จะได้มีโอกาสไปเรียนพบทางท่านอัยการสูงสุด เพื่อให้ข้อมูลอะไรบางอย่าง ไม่ทราบว่าจะมีโอกาสไหม? ได้นะครับ
ยืนยันว่า จะต่อสู้ทวงคืนความยุติธรรมให้กับเสือดำต่อไหมครับ?
“ก็จนกว่ามวยจะหมดยก ถึงถ้ายก 3 ก็เอายก 3 ครับ” หัวหน้าวิเชียร ยืนยันทิ้งทาย
https://www.facebook.com/SeubNakhasathienFD/videos/398839224260777/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตรียมยื่นอุทธรณ์พิจารณาคดีเสือดำ 2 ข้อหาที่ยกฟ้องนายเปรมชัย
สรุปความผิดและบทลงโทษ ‘เปรมชัย’ และ พวก คดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ฯ










