
ประเด็นคือ – ผบช.ภ.3 สั่งขึ้นบัญชีดำร้านอาหารป่า และแหล่งรับซื้อเนื้อสัตว์ป่า หลังคนร้ายชำแหละหมีควายขายมอบตัว เชื่อทำเป็นขบวนการ ลั่นต้องทลายให้สิ้นซาก
วันที่ 19 ก.พ. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า คดีตำรวจ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จับกุม นายอภิวัฒน์ นิลสนธิ อายุ 33 ปี พร้อมซากหมีควาย เพศเมีย อายุ 2 ปี น้ำหนัก 70 กิโลกรัม รับสารภาพว่าร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ชำแหละเนื้อหมีเพื่อบริโภคเอง และขายราคากิโลกรัมละ 400 บาท

ต่อมา นายสุรศักดิ์ กรงรัมย์ อายุ 40 ปี เข้ามอบตัวกับตำรวจ เบื้องต้นทั้งคู่ให้การรับสารภาพข้อหามีซากสัตว์ป่าไว้ในครอบครอง แต่ปฏิเสธข้อหาล่าสัตว์ ก่อนส่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนฟ้องศาลสีคิ้ว ทั้งคู่ใช้เงินสดคนละ 3 หมื่นบาท ประกันตัวในชั้นศาล ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 ราย ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน สถานที่ชำแหละซากหมี คือ นายเทิดศักดิ์ จอกแก้ว อายุ 40 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี คาดว่าจะสามารถจับกุมได้ในเร็วๆ นี้
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวอีกว่า คดีนี้เชื่อว่ามีขบวนการล่าสัตว์ป่าเพื่อชำแหละเนื้อไปขายและบริโภคในกลุ่มคนที่นิยมบริโภคสัตว์ป่าหายาก ซึ่งยังมีกลุ่มนายพรานในพื้นที่ใกล้เคียงแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทั้งใน อ.ปากช่อง และวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้กำชับให้เร่งปราบปรามอย่างเข้มข้น หากพบการกระทำผิดในพื้นที่ใด ให้เร่งจับกุมและดำเนินคดีเด็ดขาด โดยไม่ไว้หน้าใคร

ที่สำคัญได้สั่งการให้ตำรวจในท้องที่เร่งขึ้นบัญชีดำร้านอาหารแหล่งรับซื้อเนื้อสัตว์ป่า ทั้งที่อยู่บริเวณโดยรอบพื้นที่อุทยานและพื้นที่ใกล้เคียง คาดว่ามีหลายร้านที่จำหน่ายเมนูสัตว์ป่า หากพบว่ามีส่วนร่วมกับการล่าสัตว์ป่า ต้องทลายให้สิ้นซาก
ขอบคุณภาพจาก ปากช่องไทม์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: รวบหนุ่มชำแหละซาก ‘หมีควาย’ ตัดอุ้งตีนขาย อ้างติดบ่วงจนตาย









