
ไทย-เมียนมา ไม่มีสัญญาส่งตัวผู้ร้าย ตำรวจรับติดตามตัวลำบาก ฆาตกรรุมฆ่าชาวมอญด้วยกันส่อลอยนวล
กรณีกลุ่มชายฉกรรจ์ 6-7 คน นำอาวุธบุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย น.ส.ชะเอม อายุ 42 ปี และนายเม็ด อายุ 40 ปี สองสามีภรรยาชาวมอญ ภายในร้านขายของชำ หมู่ 6 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 ต.ค.61 ทำให้ น.ส.ชะเอม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายเม็ด สามีเสียชีวิต ขณะที่ลูกสาววัย 13 ปี ที่อยู่หลังประตูรอดหวุดหวิด

ล่าสุด พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภาค 7 เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นเป็นชาวมอญ ขณะนี้เรารู้ตัวและได้ออกหมายจับไปแล้วบางส่วน แต่มีข้อจำกัดในการติดตามตัว เนื่องจากกลุ่มคนร้ายเมื่อเข้ามาก่อเหตุเสร็จแล้วก็จะหนีกลับบ้าน ตามข้อมูลคือกลุ่มผู้ต้องหาได้หนีกลับไปฝั่งประเทศเมียนมาแล้ว ซึ่งประเทศไทยกับเมียนมาไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะฉะนั้นจึงยากที่จะประสานให้เขาตามจับเพื่อส่งตัวให้กับเรา
” โดยจากแผนประทุษกรรมของกลุ่มคนร้ายพวกนี้ เวลาเขาทะเลาะกันก็จะก่อเหตุกันอย่างรุนแรงมาก ถามว่ามีความมั่นใจหรือไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมตัวมาดำเนินได้ ก็อย่างที่บอกว่า เราไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนจะหลบหนีไปอยู่ชายแดนที่อยู่ติดกับจังหวัดอะไรของประเทศไทย ข้อมูลตรงนี้เจ้าหน้าที่ขอปิดเอาไว้ก่อน เพราะทาง พ.ต.อ.สุวิทย์ ชาวศรีทอง รรท.ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กำลังดำเนินการประสานแหล่งข่าวเพื่อจับกุมตัวอยู่” รอง ผบช.ภาค 7 กล่าว

สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 4 ต.ค. ขณะที่นางสาวชะเอม กำลังนั่งคิดเงินจากการขายของอยู่ภายในร้าน มีกลุ่มชายไม่ทราบชื่อจำนวน 6 คน สวมใส่หมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกเข้ามาภายในร้าน ก่อนจะใช้ไม้ทุบตีและใช้อาวุธมีคมฟันนางสาวชะเอมจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อนางสาวชะเอมร้องขอความช่วยเหลือ นางเม็ดซึ่งกำลังอยู่ในห้องนอนกับลูกสาวพยายามจะออกมาช่วยภรรยาที่ถูกทำร้าย แต่ก็ถูกกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาใช้ไม้ตีและใช้มีดฟันจนเสียชีวิต ขณะที่เด็กหญิงวัย 13 ปี ถูกประตูห้องนอนที่คนร้ายพังเข้ามาบังร่างเอาไว้ จึงไม่ถูกทำร้ายและสามารถรอดชีวิตมาเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้ โดยหลังก่อเหตุ คนร้ายทั้ง 6 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์ที่สตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ ขับหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาตำรวจสืบสวน คาดว่าสาเหตุมาจากกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เป็นชาวมอญเช่นกัน มักจะมาเที่ยวภายในหมู่บ้านแห่งนี้ที่เป็นชุมชนชาวมอญ บางครั้งชอบเปิดเพลงเสียงดัง นายเม็ด ผู้เสียชีวิตได้เข้าไปต่อว่า จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นมา ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาเกิดความไม่พอใจรวมตัวกันเพื่อก่อเหตุ จากนั้นจึงขับขี่รถจักรยานยนต์แยกย้ายกันหลบหนีข้ามชายแดนไปอาศัยอยู่กับชุมชนชาวมอญ ที่อยู่ฝั่งประเทศเมียนมา









