เหยื่อค้ามนุษย์สุดทน ร้องพลเมืองดีเเจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วย หลังถูกบังคับขายบริการในร้านคาราโอเกะ เผยต้องทนรับเเขกไม่มีลิมิต
วันที่ 3 เม.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(2 เม.ย.62) เวลาประมาณ 21.00 น. นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เด็กและสตรี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกเข้าตรวจค้นร้านสาวพานคาราโอเกะ ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน สาย เชียงราย-พะเยา อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีเเจ้งเบาะเเสว่า มีการลักลอบค้าประเวณีหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี เเละเป็นสถานบริการที่ส่งเสียงดังรำคาญ
มูลนิธิรณสิทธิ์จึงลงพื้นที่เพื่อสืบข้อเท็จจริง ปรากฎว่าในบริเวณดังกล่าวเป็นเเหล่งมั่วสุมค้าประเวณี มีร้านคาราโอเกะทั้งหมด 3 ร้าน มีหญิงบริการประมาณ 15 คน นอกจากนี้ยังพบว่ามีการดัดเเปลงห้องเเถว เป็นโรงเเรมใช้สำหรับให้บริการทางเพศ 4 ห้อง ผู้ใช้บริการทางเพศในเเต่ละรอบต้องยืนต่อคิว นอกจากนี้ยังพบว่ามีการลักลอบนำหญิงสาวชาวเมียนมาอายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายบริการทางเพศ
จากการสอบถามเหยื่อค้ามนุษย์อายุ 17 ปี เผยว่า ต้องทำงานตั้งเเต่ 2 ทุ่ม จนถึงตี 2 หรือจนกว่าเเขกที่มาใช้บริการจะหมด
มูลนิธิรณสิทธิ์ใช้ระยะเวลาในการลงพื้นที่สืบข้อมูลประมาณ 1 เดือน เมื่อข้อมูลมีความชัดเจน จึงยื่นจดหมายร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย จากนั้นชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ได้ลงพื้นที่สืบสวนซ้ำอีกครั้ง ปรากฎพบชุดข้อมูลตรงกัน จึงเป็นที่มาของการบุกจับกุม เพื่อช่วยเหยื่อค้ามนุษย์ในครั้งนี้
นายมานะ สิมมา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย สำนักการสอบสวนและนิติกร กรมการปกครอง กล่าวว่า เบื้องต้นได้นำผู้ต้องหา 1 คน ซึ่งเเสดงตัวเป็นเจ้าของร้านทราบชื่อคือ นายสุทัศน์ อายุ 46 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดเชียงราย รวมทั้งหญิงสาวชาวเมียนมา ที่ได้คุ้มครองทั้งหมด 3 คน มายังที่ว่าการอำเภอพาน เพื่อสอบปากคำทำบันทึกการจับกุม เพื่อส่งพนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่
ส่วนการคัดเเยกว่าหญิงสาวที่ตกเป็นผู้เสียหาย จากกระบวนการค้ามนุษย์เพิ่มเติมหรือไม่นั้น โดยจะเริ่มคัดเเยกในวันนี้(3 เม.ย. 62) โดยทีมสหวิชาชีพจะประชุมร่วมกันอีกครั้ง พร้อมทั้งส่งหญิงสาวทั้งหมด ตรวจร่างกาย เพื่อนำหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบ หากปรากฎว่าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็จะเเจ้งข้อหาค้ามนุษย์กับผู้ต้องหาต่อไป
ส่วนสมุดบัญชีที่เจ้าของร้านบันทึกว่ามีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่รัฐนั้น จะส่งเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ต่อไป
