
ประเด็นคือ – จนท.ลาดตระเวนแนวป่าชายแดนไทย–มาเลเซีย พบใบกระท่อมถูกซุกไว้ในกระท่อมขนาดใหญ่กลางป่า ยึดได้กว่า 1 ตัน คาดแก๊งลักลอบนำมาพักไว้ก่อนส่งขายต่อ
วันที่ 1 มี.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนนำโดย ร.ต.ท.ประวิง มั่นคงหัวหน้าชุด ชฝต.4304 ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ มีนายพริษฐ์ นราสฤฏิกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้างเป็นหัวหน้าชุด นำกำลังกว่า 30 คน ออกลาดตระเวนโดยวิธีเดินเท้าในพื้นที่เขตชายแดนไทย–มาเลเซีย เพื่อตรวจสอบและป้องกันการบุกรุกทำลายป่า และป้องกันการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ

เมื่อลาดตระเวนมาถึงแนวป่าติดเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง พบกระท่อมมีหลังคาเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบบนพื้นที่กระท่อมและที่พื้นดินโดยรอบ เต็มไปด้วยใบกระท่อมสด ลักษณะห่อด้วยพลาสติกสีขาวขุ่นเป็นมัดๆ จำนวนมาก แต่ไม่พบใครอยู่ที่กระท่อมดังกล่าว จึงทำการตรวจยึดใส่กระสอบ และติดต่อทหารชุดร้อย ร.5021 ไปช่วยขน เนื่องจากใบกระท่อมสดมีจำนวนมาก และต้องขนออกมาที่ถนนซึ่งอยู่ห่างออกมาประมาณ 200 เมตร โดยใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง จึงจะแล้วเสร็จ รวมน้ำหนักใบกระท่อมสดทั้งหมด 1,180 กิโลกรัม นำส่ง พ.ต.ท.สิทธิ์วิโรจน์ นวลเปียน สว.(สอบสวน) สภ.สะเดา เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านนายพริษฐ์ หน.อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของเขตอุทยานห่างจากถนนสายหลักประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นแนวป่าที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ลาดตระเวนอยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกระท่อมที่พบมีลักษณะเพิ่งทำได้ไม่นาน

ด้าน ร.ต.ท.ประวิง มั่นคง หน.ชุดชฝต.4304 กล่าวว่า จุดที่พบใบกระท่อมห่างจากเขตแดนหลักที่ 28 ประมาณ 20 กิโลเมตร ซึ่งเป็นช่องทางที่กลุ่มผู้ลักลอบมักจะใช้เป็นประจำ โดยจากร่องรอยคาดว่ากลุ่มผู้ลักลอบจะใช้รถจักรยานยนต์ขนใบกระท่อมสด แล้วนำมาพักไว้ที่นี้ เพื่อรอโอกาสที่จะขนออกมาส่งให้กับพ่อค้าอีกต่อหนึ่ง
สำหรับการลักลอบขนใบกระท่อมสดจากประเทศเพื่อนบ้านก่อนหน้านี้ ผู้ลักลอบมักจะใช้วิธีขนผ่านด่านพรมแดนทั้งที่สะเดา และปาดังเบซาร์ โดยวิธีซุกซ่อนมาในรถ แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นจับกุมได้บ่อยครั้ง ทำให้ผู้ลักลอบต้องเปลี่ยนไปลักลอบขนผ่านริมชายแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ และมีความยากลำบากขึ้น แต่ด้วยความต้องการของตลาดและราคาที่สูงในกลุ่มผู้เสพ การลักลอบขนใบกระท่อมสดจึงยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง









