บุกรวบตัวหนุ่มโหด หลังก่อเหตุบุกบ้านเพื่อนบ้าน ใช้มีดกระหน่ำแทงลูกสาวเจ้าของบ้าน 14 แผล เจ็บสาหัส อ้างต้องการแค่ทรัพย์สิน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ
วันที่ 31 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีคนร้ายบุกขึ้นบ้านของ น.ส.เบญจพร กุลเดช อายุ 20 ปี ก่อนใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวกระหน่ำแทงตามร่างกายและที่บริเวณลำคอของ น.ส.เบญจพร จำนวน 14 แผล จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุด พลตำรวจตรีไพศาล ศักดิ์สุนทรศิริ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ยโสธร พันตำรวจเอกวิกรม ลียะวณิช ผกก.สภ.เมืองยโสธร พร้อมด้วยชุดสืบเมืองยโสธรกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยโสธร ได้ร่วมกันจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว คือ นายอัมรินทร์ แก้วสนิท หรือ เบส อายุ 18 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 9 ต.วังมหากร อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พร้อมด้วยของกลางมีดปลายแหลมที่ก่อเหตุ 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
จากการสอบสวน นายอัมรินทร์ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าตนเองก่อเหตุจริง โดยเข้าไปก่อเหตุเพื่อหวังจะลักทรัพย์ จึงได้ปีนขึ้นหลังบ้านของผู้ตายหลังเลิกงานแล้วในตอนดึก ซึ่งตนรู้ช่องทางเข้าออกเป็นอย่างดี หวังเอาเงินและนำโทรศัพท์มือถือเพื่อไปขาย ต้องการเงินอย่างเดียว และรับว่าก่อนหน้านี้ก็เคยแอบปีนขึ้นไปทางด้านหลังบ้านของผู้เสียหายแล้ว โดยเข้าไปลักเอาโทรศัพท์มือถือภายในบ้านไป จำนวน 3 เครื่อง และในครั้งนี้ก็ได้โทรศัพท์มือถือไปอีก 1 เครื่อง
ส่วนสาเหตุที่ลงมือแทง น.ส.เบญจพร นั้น เพราะตกใจที่ผู้บาดเจ็บตื่นขึ้นมาพบ จึงได้ใช้มีดที่พกติดตัวไปกระหน่ำแทงผู้บาดเจ็บไปจำนวนหลายครั้ง ก่อนหลบหนีไป และเอามีดปลอกผลไม้ไปล้างเก็บเข้าที่เดิมในครัวร้านนั่งแช่ ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ติดกัน โดยพี่สาวของผู้ก่อเหตุถึงกับร้องไห้ออกมาเมื่อทราบเรื่อง เพราะไม่คิดว่าน้องชายจะเป็นผู้ก่อเหตุแทงสาว เนื่องจากผู้เสียหายอยู่บ้านติดกัน และรู้จักกัน พูดคุยกันเกือบทุกวัน
พลตำรวจตรีไพศาล ศักดิ์สุนทรศิริ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร กล่าวว่า เกี่ยวกับคดีนี้จากคำให้การของผู้เสียหาย สอดคล้องกับที่เกิดเหตุ ไม่มีอะไรซับซ้อนจึงสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้เร็ว แล้วรูปพรรณสันฐานผู้ก่อเหตุก็ตรงกันกับที่ผู้เสียหายให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
