
ประเด็นคือ – 2 หนุ่มต้องสงสัย ซิ่ง จยย.หนี จนท.ก่อนเสียหลักล้ม ถูกรวบตัวได้ในที่สุด ตำรวจค้นใต้เบาะ จยย.พบยาบ้า 3,980 เม็ด
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 10 พ.ย. 60 พ.ต.อ.ปริญญา ตันฑสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองระนอง รับแจ้งเหตุจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 กำลังใช้รถจักรยานยนต์ไล่ติดตาม 2 วัยรุ่น ผู้ต้องสงสัยกระทำผิดกฎหมาย ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉษ ระนอง 910 ขับรถหนีการตรวจค้น จาก แยกเขาพริกไทย ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง และกำลังมุ่งหน้าผ่านหมู่บ้านพรเทพ ออกเส้นทางถนนเพชรเกษม
จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สานิตย์ ผอมสวัสดิ์ สวป.สภ.เมืองระนอง และ ร.ต.อ.ชยุต เลขะจิตร์ รอง สวป.สภ.เมืองระนอง หัวหน้าสายตรวจ 191 เข้าทำการสนับสนุนทันที และสามารถรวบตัว 2 วัยรุ่นผู้ต้องสงสัยไว้ได้ ขณะเสียหลักล้มลง บริเวณปั้มแก๊ส ริมถนนเพชรเกษม ม.1 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง หลังจากไล่ติดตามกว่า 10 นาที ทราบชื่อต่อมา นายฉัตรชัย พลายงาม อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ม.4 ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง และ นายกมลภพ ขวัญอ่อน อายุ 22 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ม.1 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง

ก่อนจะนำตัวมาทำการตรวจค้นและสอบสวน ที่ฝ่ายงานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองระนอง เมื่อทำการตรวจค้นบริเวณใต้เบาะรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว พบกระเป๋าเป้สีเขียวที่ใส่เสื้อผ้า ถึงกับผงะ พบห่อยาบ้ามัดใหญ่สีขาว เมื่อนำมาแกะออกพบถุงยาบ้าสีฟ้า 20 ถุง และตรวจนับยาบ้า ได้จำนวน 3,980 เม็ด
จากการแยกสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย นายฉัตรชัย พลายงาม ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้เดินทางกลับจากซื้อยาบ้า 20 ถุง จาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และเดินทางเข้าจังหวัดระนอง โดยรถบัสโดยสารปรับอากาศ โดยมีนายกมลภพ ขวัญอ่อน ขับรถจักรยานยนต์ ไปรับนายฉัตรชัยที่ท่ารถ บขส.ระนอง เมื่อเย็นที่ผ่านมา ก่อนจะมาร่วมเสพยาบ้าที่บ้านพักนายกมลภพ จนช่วงหัวค่ำ
เเล้วได้ออกจากบ้านเพื่อนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้ายาในพื้นที่ อ.เมืองระนอง แต่มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์เสียก่อน จึงบิดหนีสุดชีวิต ก่อนจะถูกไล่จับกุมในที่สุด ด้านนายกมลภพ ปฎิเสธไม่มีส่วนร่วมกับการค้ายาบ้าในครั้งนี้ ตนเป็นเพียงผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไปรับและส่งเพื่อนเท่านั้น

แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไม่เชื่อในพฤติกรรม ก่อนจะแจ้งข้อหาทั้งคู่ว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในการครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวให้กับทางร้อยเวรพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป









