สามีราดน้ำมันจุดไฟเผาภรรยา เข้ามอบตัวกับตำรวจ รับสารภาพโกรธเพราะความหึงหวง เห็นภรรยาใส่เสื้อตัวใหม่ที่ได้จากชายอื่น แต่ยืนยันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายให้บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ พร้อมกล่าวขอโทษก่อนถูกคุมตัวเข้าห้องขัง
วันที่ 7 มี.ค. นายวัชระ ขลุ่ยนาค อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาราดน้ำมันจุดไฟเผา น.ส.อริสสา ปั้นประเสริฐ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ ร.ต.อ.วิชัย พรมรักษา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมให้การ ว่า ในวันเกิดเหตุตนและภรรยา มีปากเสียงกัน เนื่องจากพบว่า ภรรยาใส่เสื้อตัวใหม่ที่มีผู้ชายอื่นซื้อให้ ด้วยความโกรธจึงคว้าน้ำมันที่อยู่ในขวด พร้อมถือไฟแช็คขู่ จากนั้นตนและภรรยาได้ยื้อแย่งกันจนน้ำมันหกใส่ตัวของภรรยาและมือทั้งสองข้างของตนก่อนประกายไฟได้ลุกลามมาติดทั่วร่างกายของภรรยาจนทำให้ดิ้นทุรนทุราย
“เสื้อตัวเดียว ผมให้เขาถอดเขาก็ไม่ยอมถอด ผมก็คุยกันดีๆ น้ำมันก็อยู่อย่างนี้ขวดเล็กๆ อีกมือก็ถือไฟแช็ค น้ำมันก็หกใส่ผมก่อนแล้วถึงจะกระเด็นไปที่แฟนผม มือผมก็ไปโดนไฟแช็ค พอผมสลัด โดนผมก่อนแล้วก็ไปโดนเสื้อเมียผม ผมก็ช่วยเมียผมถอดเสื้อ ไม่ใช่ตั้งใจ”
ซึ่งญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เข้ามาช่วยกันดับไฟให้ภรรยา ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.ปากโทก ให้รีบพาตัวส่งโรงพยาบาล โดยหลังเกิดเหตุตนไม่ได้หลบหนีและยังไปเยี่ยมภรรยาทุกวัน พร้อมอยากขอโทษภรรยา เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายถึงเพียงนี้ แต่เพราะโกรธหึงหวงและรักภรรยามาก เนื่องจากอยู่กินกันมานานจนมีลูกด้วยกัน 3 คน ซึ่งตอนนี้เสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป
ขณะที่ พ่อและแม่ของนายวัชระ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุขณะกำลังขายของอยู่หน้าบ้านพัก สังเกตเห็นลูกชายและลูกสะใภ้มีปากเสียงทะเลาะกัน แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ยืนยันว่าบุตรชายไม่ได้ตั้งใจทำร้ายแฟนสาวแต่เป็นอุบัติเหตุส่วนที่มีผู้นำรูปภาพและข้อความไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก กล่าวหาว่าลูกชายตั้งใจจุดไฟราดน้ำมันภรรยานั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาทางครอบครัวได้ดูแลเอาใจใส่ลูกสะใภ้เป็นอย่างดี ทั้งคู่ก็รักกันมากแต่ก็อาจจะมีปากเสียงทะเลาะหึงหวงกันบ้างตามประสา
