
ประเด็นคือ – คืบหน้า ลุงยากูซ่า ที่หลบหนีคดีเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูความเป็นอยู่ ชาวบ้านเรียก “โกโบริ” โดยนายชิเกรุ จะดูแลและคอยทำความสะอาดบริเวณศาลเจ้า ให้มีความสะอาดอยู่เสมอ
จากกรณีที่ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วยผบ.ตร.ได้เดินทางมายังที่ สภ.เมืองลพบุรี เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 61 เพื่อร่วมสอบปากคำขยายผลการจับกุมตัว นายชิเกฮารุ ชิเรอิ อายุ 74 ปี ผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่น ที่หลบหนีหมายจับมากบดานอยู่ในประเทศไทย ซึ่งนายชิเกฮารุนั้นเป็นผู้นำกลุ่มของแก๊งยากูซ่าชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นและเจ้าหน้าที่จากสถานทูตญี่ปุ่นได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=MTBSuvv9Jcs
โดย พล.ต.อ.วิระชัย ได้เปิดเผยหลังผลการสอบปากคำเบื้องต้น ว่า นายชิเกฮารุ ชิเรอิ เป็นสมาชิกอยู่ในแก๊ง “ยามากุชิ กุมิ” ซึ่งเป็นแก๊งยากูซ่าที่มีเครือข่ายสมาชิกกว่า 20,000 คน และมีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งได้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 46
โดยนายชิเกฮารุที่เป็นหัวหน้าแก๊ง “โคโดไก” (ยามากุชิ กุมิ เป็นแก๊งใหญ่แต่มีแก๊งย่อยๆ ออกมาอีกหลายแก๊ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแก๊งโคโดไก ที่มีนายชิเกฮารุเป็นหัวหน้า) ได้ร่วมกับผู้อื่น 7 คน ก่อเหตุฆ่าโหด นายคาซิ นิโกะ โอโตเบะ รองหัวหน้ากลุ่ม “คามิยะ” ซึ่งเป็นกลุ่มยากูซ่าคู่อริ โดยนายชิเกฮารุได้ใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะผู้ตายอย่างเหี้ยมโหดหลายนัด

ภายหลังก่อเหตุนายชิเกฮารุได้หลบหนีออกนอกประเทศ กระทั่งตำรวจญี่ปุ่นมีเบาะแสว่านายชิเกฮารุ ได้หลบหนีเข้ามา ที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 48 จากนั้นได้เริ่มแกะรอย และพบข้อมูลว่ามีบุคคลลักษณะ คล้ายนายชิเกรุซึ่งอาศัยอยู่กับภรรยาคนไทยในจังหวัดลพบุรี และมักปรากฏตัวที่สวนสาธารณะ บริเวณศาลลูกศร อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เป็นประจำ จนกระทั่งนำสู่กระบวนการจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายชิเกฮารุ ได้ให้การปฏิเสธ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุฆ่าโหดนายคาซิฮึโกะ โอโตเบะ แต่อย่างใด เบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ว่า หลบหนีอยู่ในประเทศไทยโดยไม่มีวีซ่าและผิดกฎหมาย แต่ทางด้านของคดีฆ่าผู้อื่นทางเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นก็จะนำตัวกลับไปดำเนินคดีต่อ ซึ่งแม้ว่า นายชิเกฮารุจะให้การปฏิเสธ แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจของญี่ปุ่น ก็มีหลักฐานเอาผิดเนื่องจากสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งหมดและถูกดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมถึงสาเหตที่เลือกประเทศไทยในการหลบหนีหมายจับ และมีความเป็นอยู่ที่เมืองไทยอย่างไร ซึ่งก็จะลงพื้นที่ดูความเป็นอยู่ของนายชิเกฮารุ อีกด้วย
และหลังจากที่มีการสอบปากคำขยายผลการจับกุมตัวนายชิเกฮารุ เสร็จแล้วนั้น พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ได้นำตัวนายชิเกฮารุ ไปชี้จุดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ประกอบด้วยโรงสีข้าวที่เคยไปของานทำ บริเวณบ้านอดีตภรรยา และจุดที่บริเวณสนามหมากรุกด้านข้างศาลลุกศร ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกจับกุมขณะนั่งเล่นหมากรุกเมื่อช่วงเย็นวานที่ผ่านมา (10 ม.ค.) และบริเวณข้างสนามหมากรุก ที่เป็นที่พักสายตรวจเก่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ได้ใช้แล้ว ซึ่งนายชิเกฮารุ ชิเรอิ ได้ใช้เป็นพื้นที่หลับนอนมานานกว่า 7 เดือน

ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิระชัย เผยว่าในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมหลักฐานนำตัวนายชิเกฮารุ ชิเร ส่งฟ้องศาลใน 3 ข้อหา 1.คือ หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติการเข้าเมือง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท ข้อหาที่ 2 อยู่ในราชอาณาจักiโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท ข้อหาที่ 3 เป็นคนต่างด้าวไม่แจ้งที่พักต่อเจ้าหน้าที่ อัตตราโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งจะต้องนำตัวส่งฟ้องศาลก่อนส่งตัวให้กับทางตำรวจญี่ปุ่นต่อไป
เเต่ต่อมาได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ธนากร ใจสุขสกุลดี ได้ให้ข้อมูลอีกด้านว่า นายชิเกฮารุเป็นเพียงสมาชิกทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นสมาชิกยากูซ่าระดับหัวหน้าเเก๊ง หรือหัวหน้าสาขาเเต่อย่างใด (ข้อมูลอีกด้าน ! ลุงยากูซ่า ไม่ใช่สมาชิกระดับหัวหน้า)
ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้เดินทางไปที่ศาลลูกศร เพื่อพูดคุยและดูความเป็นอยู่ของนายชิเกฮารุ เเละได้พบกับผู้ดูแล ศาลลูกศร ทราบว่า นายชิเกรุนั้น จะมาอาศัยหลับนอนอยู่ที่บริเวณศาลแห่งนี้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว ซึ่งคนแถวนี้จะเรียกนายชิเกฮารุว่า “โกโบริ” โดยนายชิเกรุมีหน้าที่ดูแลศาลเจ้าและคอยทำความสะอาดบริเวณศาลเจ้าให้มีความสะอาดอยู่เสมอ อีกทั้งยังคอยบริการน้ำดื่ม ให้คนที่เข้ามาเล่นหมากรุกภายในบริเวณศาลอีกด้วย บางครั้งก็จะได้รับเงินบ้างจากคนที่เข้ามาเล่นหมากรุก และยืนยันว่าเป็นคนดีแน่นอน

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้เข้าไปดูป้อมตำรวจ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนายชิเกฮารุ มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย อาศัยนอนบนพื้น พบมีเพียงลังกระดาษและเสื่อเก่าๆ ปูบนพื้น มีข้าวของเครื่องใช้ เช่นพัดลม กระทะไฟฟ้า และยังพบถุงซุปมิโซะ หนังสือพิมพ์ของประเทศญุี่ปุ่นอยู่ภายในห้องอีกด้วย
ด้านนายเขียว จัดจำรูญ ผู้ดูแลศาลลูกศรอีกคน ที่รู้จักนายชิเกฮารุ เผยว่า ปกติแล้วได้พูดคุยกับนายชิเกฮารุเป็นบางครั้ง เนื่องจากผู้ต้องหาพูดภาษาไทยไม่ค่อยคล่อง และพอทราบว่านายชิเกฮารุ เป็นพวกแก๊งยากูซ่า ซึ่งคนแถวนี้ก็พอทราบ นายชิเกฮารุอาศัยอยู่บริเวณนี้มานานแล้ว มีนิสัยดี ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร


ขอบคุณภาพจาก เพจอีจัน









