
ประเด็นคือ – ‘ชิต สายเบิร์น’ นอนคุกคืนแรก หลังก่อเหตุยิง-ฉุด นศ.ข่มขืน พบมีอาการเครียด เผยภรรยาจะนำทนายความมาสู้คดี โดยงัดข้ออ้างตนเองจิตไม่ปกติ ญาติขอประกันตัว แต่หลักทรัพย์ไม่เพียงพอ เนื่องจากโดนแจ้ง 7 ข้อหาหนัก
วันที่ 18 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีตำรวจจับกุมตัว นายทิษณุ โถนารัตน์ หรือชิตสายเบิร์น อายุ 29 ปี ชาว อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่านักศึกษาชายและข่มขืนนักศึกษาหญิง มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ซึ่งหลังจากตำรวจทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปแล้วได้นำตัวไปส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์

โดยเมื่อวานนี้ (17 ก.พ.) ขณะที่ตำรวจนำ นายทิษณุ โถนารัตน์ หรือ ชิตสายเบิร์น ส่งฝากขังที่ศาล จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหามีสภาพอิดโรยและมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ได้แต่บ่นพึมพำอยู่ในลำคอ ทั้งนี้มีรายงานว่า ได้มีญาติพยายามนำหลักทรัพย์มาประกันตัวแต่ไม่เพียงพอ เนื่องจากตำรวจได้ตั้งถึง 7 ข้อหาหนัก ประกอบด้วยข้อหา 1.พยายามฆ่าผู้อื่น 2.ข่มขืนใจผู้อื่นไม่กระทำการโดยมีอาวุธ 3.พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุอันสมควร 4.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรืออยู่ในภาวะที่ไม่ขัดขืน 5.ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร 6.กักขังหน่วงเหนี่ยว และ 7.ปล้นทรัพย์ จึงจะต้องใช้หลักทรัพย์หลายแสนบาทมาประกันตัว
ทำให้เมื่อคืนนี้ ชิตสายเบิร์น ต้องนอนอยู่ในคุกเป็นคืนแรก ที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ ผู้คุมต้องแยกออกจากผู้ต้องขังทั่วไปเนื่องจากคนร้ายรายนี้ จัดเป็นบุคคลอันตรายเพราะมีสภาพจิตใจไม่ปกติ และมีรายงานว่า ชิตสายเบิร์น ได้บอกให้ภรรยาของตนได้จัดหาทนายความเพื่อต่อสู้คดี โดยจะใช้ข้ออ้างว่าตนเองมีจิตไม่ปกติเพราะเคยไปรับการบำบัดที่โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่น

ส่วนความเคลื่อนไหวที่มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ยังคงทำการเรียนการสอนตามปกติ แต่นักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 2 ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านตนเอง แต่สุขภาพจิตเริ่มดีขึ้น ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากอาจารย์ผู้สอนคนหนึ่งว่า ในขณะนี้ทุกคนต้องสร้างกำลังใจและเป็นไปได้จะต้องยุติเรื่องการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในส่วนของคดีเกรงว่า ชิตสายเบิร์น จะต่อสู้คดี ก็จะไปปรึกษาหารือกับสำนักยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ในวันพรุ่งนี้เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดีอีกทาง
ด้านชาวบ้านในชุมชน ก็ยังคงพากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์มาตรการความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะถนนในหมู่บ้าน ตั้งแต่ทางเข้ามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ชาวบ้านเรียกร้องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้รับผิดชอบเข้ามาจัดให้มีไฟแสงสว่างมากขึ้น พร้อมกับมาตรการความปลอดภัยในมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ด้วย









