รองโฆษกกรมปศุสัตว์รุดตรวจสอบคดีสาวต้องสงสัยก่อเหตุทารุณกรรมแมว ล่าสุดตำรวจบุกบ้านสาวต้องสงสัยย่านศาลาธรรมสพน์ แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ เหตุยังไม่มีการออกหมายเรียก หรือขออำนาจศาลออกหมายจับ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สน.เพชรเกษม นายชัยวัฒน์ โยธคล ผอ.ศูนย์สารสนเทศและรองโฆษกกรมปศุสัตว์ และ นายพีระบุญ เจริญวัย ประธานองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศุภชัย อ่วมประเสริฐ รอง ผกก.หัวหน้างานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อติดตามคดีทารุณกรรมสัตว์ กรณีที่โลกโซเชียลมีเดียกำลังกล่าวถึงผู้ต้องสงสัยหญิงรายหนึ่ง ซึ่งมีพฤติกรรมตระเวนไปขอรับอุปการะแมวจรจัดไร้บ้านตามสถานที่ต่างๆ หลายแห่ง แล้วแมวเกิดอันตรธานหายไป โดยขณะนี้ผู้เสียหายหลายรายกำลังเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อรวมตัวกันแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยรายนี้ ในข้อหาทารุณกรรมสัตว์
นายพีระบุญ เจริญวัย กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงดึกวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายรายหนึ่งชื่อ น.ส.อิศราภรณ์ สมุทรกลิ่น อายุ 29 ปี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อนัดเจรจากับผู้ต้องสงสัย ซึ่งเคยนัดรับขอลูกแมวไปอุปการะผ่านทางเพจหาบ้านให้สัตว์ แล้วปรากฏว่าผู้ต้องสงสัยกลับนำศพลูกแมวในสภาพเสียชีวิตอย่างน่าสยดสยอง คือถูกคว้านนำอวัยวะภายในไปจนหมด มามอบให้พนักงานสอบสวน
เบื้องต้นทางองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ และ WDT หรือ WATCHDOG THAILAND จึงได้ช่วยกันหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยดังกล่าว พบว่า หลายเดือนที่ผ่านมา เจ้าตัวเคยมีการประสานไปที่ผู้เสียหายจำนวนหลายราย เพื่อขอรับแมวไปเลี้ยงดู ขณะนี้รับแมวไปรวมได้ประมาณ 27 ตัว แต่เมื่อผู้เสียหายพยายามติดต่อไปสอบถามความคืบหน้าด้านความเป็นอยู่ของแมว ปรากฏว่าผู้ต้องสงสัยกลับไม่ยอมรับโทรศัพท์ บล็อกเฟซบุ๊ก และตัดช่องทางการติดต่อสื่อสารทุกอย่าง กระทั่งมาปรากฏตัวที่ สน.เพชรเกษม ในสภาพคล้ายคนมึนเมา พร้อมศพแมว เมื่อคืนนี้ตนจึงประสานให้แพทย์จาก WDT มารับศพแมวไปชันสูตร ก่อนประสานทางกรมปศุสัตว์ เพื่อนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมตรวจสอบ
ต่อมา น.ส.อิศราภรณ์ ผู้เสียหาย ได้เดินทางมาสมทบที่โรงพัก พร้อมกล่าวกับสื่อมวลชนว่า ก่อนหน้านี้ตนมีแมวจรจัดซึ่งผ่านการทำหมันแล้ว อยู่ในความดูแลจำนวน 4 ตัว จึงโพสต์หาบ้านให้น้องตามช่องทางโซเชียลมีเดีย กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องสงสัยได้ติดต่อมาหาตนผ่านแชตทางเฟซบุ๊ก เพื่อขอรับอุปการะแมว จำนวน 1 ตัว โดยผู้ต้องสงสัยระบุขอแมวเพศผู้ หางยาว และต้องเป็นแมวที่มีพฤติกรรมเรียบร้อย ไม่ส่งเสียงครวญครางน่ารำคาญ เพราะเกรงว่าจะถูก รปภ.ที่คอนโดมิเนียมจับได้ ตนจึงเลือกแมวเพศผู้อายุประมาณ 1 เดือน 2 สัปดาห์ไปมอบให้ โดยนัดหมายรับแมวกันที่คลินิกรักษาสัตว์แห่งหนึ่ง ย่านถนนสุขาภิบาล 1 ท้องที่ สน.เพชรเกษม ตอนช่วงเย็น
ตัวแทนจาก WATCHDOG THAILAND
โดยหลังจากที่ผู้ต้องสงสัยมารับแมวไป ตนก็พยายามติดต่อกลับเพื่อสอบถามความคืบหน้าว่า อาการเป็นอย่างไร แต่ผู้ต้องสงสัยก็ไม่ยอมรับสายหรืออ่านแชต อ่านไลน์ จึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหากลางดึกวันเดียวกัน ผู้ต้องสงสัยรับสาย แต่กลับได้รับคำตอบว่า ตนเข้าใจผิด เพราะเจ้าตัวไม่ได้เป็นคนมารับแมวไป ตนจึงขู่ไปว่าที่คลินิกมี CCTV บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ผู้ต้องสงสัยจึงยอมรับ และอ้างว่านำแมวให้เพื่อนไปเลี้ยงต่อแล้ว เพราะตัวเองเป็นภูมิแพ้
น.ส.อิศราภรณ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรู้สึกถึงความผิดปกติที่ได้รับคำตอบจากผู้ต้องสงสัยมาแบบนั้น จึงพยายามโทรศัพท์ไปทวงถามอาการของแมวตัวนี้อีกหลายครั้ง กระทั่งมีการนำหน้าเฟซบุ๊กของผู้ต้องสงสัยขึ้นเตือนภัยตามเพจคนรักหมาแมว ทำให้ผู้ต้องสงสัยโกรธ และกล่าวว่าจะฟ้องร้องตนที่นำข้อมูลส่วนตัวไปเปิดเผยบนโลกโซเชียลมีเดีย
จากนั้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตนจึงได้นัดหมายให้ผู้ต้องสงสัยมาเจรจากันต่อหน้าพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ปรากฏว่า เจ้าตัวได้นำซากแมวที่เป็นศพมาแล้ว ห่อใส่ถุงขยะสีดำ เดินทางมามอบให้พนักงานสอบสวน โดยอ้างว่าแมวถูกสุนัขกัดเสียชีวิต จากนั้นเจ้าตัวก็เดินทางกลับไป ซึ่งขัดแย้งสภาพศพแมวตัวดังกล่าว ที่ตนดูแล้วคล้ายโดนทารุณกรรมมากกว่า คือมีบาดแผลคล้ายถูกของมีคมกรีดเข้าตามร่างกายหลายแห่ง ประกอบกับถูกคว้านเอาอวัยวะภายในออกไปจนหมด คล้ายนำแมวไปทารุณกรรมโชว์ตามเว็บไซต์ใต้ดินหรือดาร์กเว็บเพื่อแลกบิตคอยน์ ตนจึงได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ และติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ สพ.ญ.ภัทรนันท์ สัจจารมย์ สัตวแพทย์ประจำคลินิกบ้านสัตว์เลี้ยง และสัตวแพทย์ประจำ WDT กล่าวว่า ตนได้ตรวจสอบซากแมวที่เสียชีวิตในเบื้องต้นแล้ว พิสูจน์ได้ว่า เป็นการตายอย่างผิดธรรมชาติ แมวถูกกระทำอย่างผิดธรรมชาติหลายแห่ง เช่น มีรอยถูกกระแทกที่อวัยวะภายในช่องท้อง ทั้งหัวใจ ปอด และสำไส้ ถูกนำออกจากศพไปทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีกล้ามเนื้อขาหลังคล้ายถูกของมีคมเลาะออกไป ยืนยันว่า การตายของแมวตัวนี้ไม่ใช่ถูกรถชนเพราะอุบัติเหตุ หรือถูกสัตว์ใหญ่กว่าขบกัดตามที่ผู้ต้องสงสัยกล่าวอ้างอย่างแน่นอน
ด้าน พ.ต.ท.ศุภชัย กล่าวว่า คดีนี้รับแจ้งความเอาไว้แล้ว โดยในเบื้องต้นพบว่า มีการส่งมอบแมวกันในพื้นที่ สน.เพชรเกษม หลังจากนี้จะต้องพิสูจน์ทราบให้ได้เสียก่อนว่า แมวตายเพราะสาเหตุใด และตายที่ไหน คงต้องใช้เวลาสักระยะ เนื่องจาก ทางผู้ต้องสงสัยได้แจ้งเบาะแสที่อยู่เอาไว้หลายตำแหน่ง อาทิ ย่านสาทร ศาลาธรรมสพน์ วงเวียนใหญ่ และพรานนก หากตรวจพบว่ามีการทารุณกรรมสัตว์จริง จะออกหมายเรียกมาเข้าพบ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับผู้ต้องสงสัยหญิง อายุ 30 ปี รายนี้นั้น มีอาชีพเป็นดีเจอิสระ เปิดเพลงตามผับ นอกจากนั้นยังมีความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่น เป็นล่ามอาสาขององค์กรสำคัญหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์ยุติความรุนแรง โดยเมื่อปี 2557 เคยออกมาเคลื่อนไหวในฐานะแกนนำรณรงค์การยุติความรุนแรงเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง
ความคืบหน้าล่าสุดในขณะนี้ ทาง พ.ต.ท.สุนทร มาลาเสช รอง ผกก.สส.สน.เพชรเกษม ได้นำกำลังไปที่บ้านพักของผู้ต้องสงสัยย่านศาลาธรรมสพน์ และพบตัวเป้าหมายแล้ว อยู่ระหว่างการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ เนื่องจากยังไม่มีการออกหมายเรียกหรือขออำนาจศาลออกหมายจับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดีเจสาวปฏิเสธฆ่าแมว อ้างแมวหลุดพบอีกทีตายแล้ว
- ดีเจสาวฆ่าโหดแมวจร หลังขอจากเพจหาบ้านฯ วอตช์ดอกส์ชี้ฆ่าแลกเหรียญ
