ผบ.ตร. สอบปากคำผู้ต้องหา (ภาพจาก กองสารนิเทศ สตช.)
ประเด็นคือ – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำนายตำรวจ นับ 10 ที่เกี่ยวข้องกับ คดีของ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ มาร่วมแถลงข่าว ยืนยัน น.ส.ณิชา ไม่เกี่ยวข้องกับ แก๊งโรแมนซ์สแกม แต่ยังคงมีทั้งสถานะ ผู้ต้องหา และผู้เสียหาย
วันนี้ (17 ม.ค. 61) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาใน คดีสวมบัตร น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ จากนั้นได้มีการแถลงข่าวในคดีนี้ โดยระบุว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นขบวนการโรแมนซ์สแกม ไม่ใช่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจะใช้วิธีหลอกพูดคุยกับหญิงไทย สร้างความสัมพันธ์ผ่านบทสนทนาทางอินเตอร์เน็ต และจบลงด้วยการหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้
นายอายัค ไซม่อน (แฟ้มภาพ)
ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวนพบข้อมูลว่า นายอายัค ไซม่อน ชาวไนจีเรีย จ้างวานให้หญิงไทย สวมบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีกับธนาคาร ที่ใช้หลอกเหยื่อโอนเงิน ก่อนจะนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินสด มีผู้ต้องหาชาวไทย ร่วมกระทำความผิด รวม 3 คน ประกอบด้วย น.ส.ปวีณา สิงห์วิบูลย์ เปิดบัญชีไป 5 บัญชี, น.ส.พรหมพรพงษ์ เจริญคุณากร รับเปิดบัญชี 2 บัญชี และน.ส.เจรติ สายสิญจน์ รับเปิดบัญชี 3 บัญชี
สำหรับกลุ่มนี้ ตำรวจพบพฤติการณ์กระทำความผิดให้หลายพื้นที่ กระจายเปิดบัญชีต่างพื้นที่กัน ทั้งในย่านห้วยขวาง ลาดพร้าว ภาษีเจริญ หลักสอง และสภ. นนทบุรี
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก อีจัน
ขณะที่ น.ส. ณิชา ล่าสุดยังคงเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง และต้องรายงานตัวต่อศาลจังหวัดตากอีก 5 ครั้ง รวมทั้งยังเป็นผู้เสียหายที่ถูกแก๊งโรแมนซ์สแกม ขโมยบัตรประชาชนไปเปิดบัญชี และไม่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงผู้เสียหายแต่อย่างใด
น.ส. ณิชา นำดอกไม้ขอบคุณ ผบ.ตร. (ภาพจาก กองสารนิเทศ สตช.)
” น.ส.ณิชา ทำบัตรประชาชนครั้งแรก ตอนอายุ 15 จากนั้นได้ทำบัตรใหม่อีก 2 ครั้ง เพราะบัตรหาย ถือว่าปกติ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้าย “ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว หนึ่งในผู้ร่วมแถลงข่าวในวันนี้ระบุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
