
ประเด็นคือ- ศาลจังหวัดยะลา พิพากษาจำคุกสาวตาบอด วัย 24 ปี เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ตามความผิดมาตรา 112 ในขณะที่มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ประจำจังหวัดยะลา เตรียมให้การช่วยเหลือตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 61 เวลา 11.00 น. ที่มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมประจำจังหวัดยะลา ที่อยู่ 40 ถ.ผังเมือง 4 อ.เมือง จ.ยะลา นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ประธานกรรมการ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมประจำจังหวัดยะลา เปิดเผยถึงกรณีศาลอ่านคำพิพากษาจำคุก หญิงพิการทางสายตา คดีหมิ่นเบื้องสูง ความผิดตามมาตรา 112 เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 61 ว่า สำหรับคดีของ น.ส.นูรฮายาตี มะเสาะ เป็นกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามมาตรา 112 ด้วยการโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบัน

ซึ่งในทางคดี หลังจากมีการควบคุมตัวจำเลย ก็มีการดำเนินการฝากขังศาล และควบคุมตัวจำเลยไว้ที่เรือนจำกลาง จังหวัดยะลามาโดยตลอด ซึ่งมีอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 3 ภาค 9 เป็นโจทย์ฟ้องคดีนี้
ในชั้นพิจารณา จำเลยได้ให้การรับสารภาพกับศาล ศาลมีความเห็นให้มีการสืบเสาะและพินิจเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง ใช้ประกอบในการพิจารณาลดโทษ หรือพิจารณาลงโทษจำเลยด้วยความปราณี และได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 4 ม.ค. 61 ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน โทษจำคุกไม่รอลงอาญา เนื่องจากเป็นความผิดร้ายแรง
“ในส่วนของการช่วยเหลือ ทางมูลนิธิฯ เพิ่งได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจากพี่ของจำเลย เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา และหลังจากฟังคำพิพากษา ก็ได้มีการพูดคุยกันว่า ทางญาติยังมีความต้องการให้ทางมูลนิธิฯ อุทธรณ์คำพิพากษาของศาล เพื่อให้ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิจารณาอีกครั้ง ในส่วนของโทษพิพากษาโดยไม่รอลงอาญา หรือจะทำหนังสือถวายฎีกาเพื่อขอความเมตตาในการอภัยโทษ

เนื่องจากที่ผ่านมา น.ส.นูรฮายาตี มะเสาะ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา ในขณะที่ถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำนั้น จะมีปัญหาเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะต้องมีคนดูแล ให้การช่วยเหลือ เพราะไม่คุ้นชินกับสถานที่ ไม่ได้เป็นพื้นที่ประจำที่คนตาพิการจะรู้ว่า จะต้องเดินไปทางไหน และเชื่อว่าในเรือนจำก็ไม่มีพื้นที่สำหรับผู้ต้องขังที่พิการทางสายตา
ทั้งนี้ในส่วนของคดี กฎหมายให้สิทธิ์จำเลยในกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับศาลชั้นต้น สามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือน หรือจะขอขยายเวลาในการอุทธรณ์ได้ถ้ามีเหตุจำเป็น
ในส่วนของมูลนิธิฯ ก็จะไปดูว่าจะสามารถช่วยเหลือว่าจะมีเหตุในการอันควรปราณีอะไรบ้าง ที่จะสามารถดำเนินการเพื่อขอความเมตตา เพื่อให้จำเลยได้รับสิทธิในการรอลงอาญา ในการกระทำความผิดในครั้งนี้” นายอาดิลัน กล่าว

สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 13 ต.ค. 59 ถึงวันที่ 18 ต.ค. 59 ต่อเนื่องกัน น.ส.นูรฮายาตี มะเสาะ ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา ได้ใช้เฟซบุ๊กที่ลงทะเบียนในชื่อ นูรฮา ยาตี โพสต์ข้อความหมิ่นเบื้องสูง รวมทั้งคัดลอกข้อความหมิ่นประมาท นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ด้วยแอพพลิเคชั่นของผู้พิการทางสายตา ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 33 มาตรา 112 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค. 19 ข้อ 1 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3, 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 8









