
คนร้ายก่อเหตุบุกยิงเจ้าของร้านนวดและลูกสาวเสียชีวิตคาร้าน ใน อ. กบินทร์บุรี พร้อมหลานชายวัย 6 ขวบหายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
วันที่ 22 เม.ย. 2562 เวลา 00.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สุมิตร อัครเนตร ร้อยเวร สภ.กบินทร์ ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยว่ามีเหตุยิงกันตายที่ ร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่งใน ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ

ในที่เกิดเป็นตึกแถวชั้นเดียวอยู่ริมถนนสายสุวรรณศร พบเปิดเป็นร้านนวดแผนไทย เมื่อเข้าไปภายในร้านพบ ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงนอนจมกองเลือดที่พื้นห้อง 2 ราย คือ น.ส.ปิยะนันท์ อายุ 43 ปี สภาพนอนคว่ำหน้า และที่บริเวณศีรษะ พบหัวกระสุน ขนาด 38 ม.ม. จำนวน 1 นัด และที่ปลายเท้า 2 นัด ใกล้กันพบศพ นางวรีรัตน์ อายุ 61 ปี อยู่ในสภาพนอนหงายเสียชีวิต โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 2 เป็นแม่ลูกกัน
จากการตรวจ พบน.ส.ปิยะนันท์ (เอ๋) ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 38 มม. เข้าที่บริเวณริมฝีปากด้านขวา 1 นัด และที่บริเวณศีรษะด้านขวา 1 นัด ส่วนนางวรีรัตน์ อายุ 61 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่บริเวณหน้าผากขวา 1 นัด คาดว่าทั้ง 2 น่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ชม. ตำรวจจึงนำร่างผู้เสียชีวิตส่งต่อให้กับโรงพยาบาลกบินทร์บุรี เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์อีกครั้ง

นายพงษ์ยศ อายุ 49 ปี อดีตสามีนางวรีรัตน์ เปิดเผยว่า นายไตรภพ อายุ 20 ปี ลูกชายของนายพงษ์ยศและนางวรีรัตน์ ได้โทรศัพท์มาบอกกับตนเองว่า น.ส.ปิยะนันท์ ทะเลาะกับแฟนแล้วตอนนี้ติดต่อไม่ได้ ขอให้ป๊าไปดูที่ร้านนวด
จากนั้นนายพงษ์ยศได้เดินทางมาดู เห็นไฟที่ร้านปิด จึงผลักประตูเข้าไปและเปิดไฟดู ก็พบว่านางวรีรัตน์ และนางสาวปิยะนันท์ นอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นกลางร้าน จึงได้โทรศัพท์แจ้งกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาตรวจสอบ จากการตรวจสอบ ปรากฏว่าลูกชายของ น.ส.ปิยะนันท์ อายุ 6 ขวบ ได้หายไปจากร้านโดยยังไม่ทราบสาเหตุ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางวรีรัตน์ เปิดร้านนวดแผนไทยที่ห้องที่เกิดเหตุ โดยมีบุตรสาว น.ส.ปิยะนันท์ มาช่วยทำงานที่ร้าน โดย น.ส.ปิยะนันท์ มีนายทอง อดีตสามี ที่เลิกกันไปนานแล้ว มาคอยตามตื้อขอคืนดีให้กลับไปอยู่ด้วยกันที่สุโขทัย แต่ น.ส.ปิยะนันท์ ไม่กลับไปและไม่คืนดี นายทองจึงขู่ว่า ถ้าไม่กลับก็เตรียมตัวตายได้เลย ทั้งครอบครัว ซึ่ง น.ส.ปิยะนันท์ ก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.กบินทร์บุรี ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป









