เจ้าหน้าที่ ปปส.จับพ่อค้ายาบ้าซุกยาบ้า 4,000 เม็ดไว้ในกอต้นกล้วย เผยประวัติพ้นโทษคดียาบ้ามาได้ 2 ปี ทุ่มเงินร่วม 200,000 บาท ซื้อยาบ้ามาขายและเสพอีก
วันที่ 4 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายหมวดตรี นิธิโรจน์ แก้วเหลา รอง ผบ.ร้อย อส.จ.ศก.ที่ 2 และ เจ้าพนักงาน ปปส. ได้นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ที่ 2 จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วของผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำตัวนายอาทร สมนึก อายุ 37 ปี ไปตรวจค้นที่บริเวณกอต้นกล้วย และพบยาบ้าของกลาง จำนวน 18 ถุง จำนวน 3,557 เม็ด ที่บริเวณกลางสวนยางพารา ด้านทิศเหนือของหมู่บ้านทุ่งมั่ง ต.อิปาด อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งนายอาทรได้นำเอายาบ้ามาซุกซ่อนไว้ โดยเจ้าตัวได้ยอมรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเอง
ทั้งนี้สืบเนื่องจากการที่ได้มีพลเมืองดีได้ร้องเรียนผ่านศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษว่า นายอาทร ซึ่งเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดเมื่อปี 2558 และพ้นโทษมาได้ 2 ปี มีพฤติการณ์ในการเสพและลักลอบขายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ตำบลอิปาด และตำบลใกล้เคียง ดังนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงบริเวณหน้าบ้านของผู้ต้องหาที่บ้านเลขที่ 105/3 ม.4 ต.อิปาด อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พบผู้ต้องหายืนอยู่ข้างต้นมะพร้าวติดกับห้องน้ำบริเวณหลังบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ เมื่อนายอาทร เห็นเจ้าหน้าที่ได้แสดงอาการมีพิรุธได้ล้วงเอาสิ่งของบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกงและยัดใส่ไว้ในกาบของต้นมะพร้าว แล้ววิ่งเข้าไปหลบซ่อนตัวภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ชุดกับกุมจึงได้ติดตามเข้าไปทำการควบคุมตัวไว้ได้
ด้านเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายอาทร มาตรวจสอบสิ่งของที่ซุกซ่อนไว้ในกาบของต้นมะพร้าวปรากฏว่า พบยาบ้า จำนวน 1 ถุง จำนวน 157 เม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงนำนายอาทร ไปที่บริเวณสวนยางของนายอาทร ตามข้อมูลที่มีผู้แจ้งว่า นายอาทรจะนำเอายาบ้ามาไว้จำนวนมาก และมักจะนำมาซุกซ่อนไว้ที่สวนยางดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นบริเวณสวนยางปรากฏว่า พบยาบ้าอีกจำนวน 17 ถุง จำนวน 3,400 เม็ด ซึ่งนายอาทร รับว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของตน และนำมาซุกซ่อนไว้จริง และได้รับสารภาพด้วยว่า ได้เสพยาบ้าก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมด้วย
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอาทร ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ติดต่อซื้อยาบ้ามาจากเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเคยต้องโทษมาด้วยกัน โดยโอนเงินค่าซื้อยาบ้าเข้าบัญชีและจะมีคนนำยาบ้ามาวางไว้ตามจุดนัดหมาย ในราคาเม็ดละ 45 บาท ซึ่งตนได้สั่งยาบ้าไปจำนวน 2 มัด จำนวน 4,000 เม็ด ในราคา 180,000 บาท จากนั้นจะนำมาขายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ตำบลอีปาด ในราคาเม็ดละ 60 บาท ซึ่งหากขายหมดในจำนวนนี้ ตนจะได้เงินประมาณ 240,000 บาท ซึ่งตนเพิ่งขายได้ไปเพียงแค่ 2 ถุง และมาถูกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ซึ่งเป็นชุดเดียวกันกับที่เคยจับกุมตนเมื่อครั้งที่แล้วจับกุมได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แจ้งข้อหาให้ทราบว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำไปส่งมอบให้ พนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
