
ประเด็นคือ – ศาลจังหวัดปากพนัง พิพากษาประหารชีวิต จำเลย 5 คน ในคดีฆ่านายฉวี อินทระ ยุติธรรมจังหวัดพังงาอย่างโหดเหี้ยม เหตุเกิดเมื่อปี 2559
เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.60) ศาลจังหวัดปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช อ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1700/ 2559 พนักงานอัยการประจำศาลจังหวัดปากพนัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 5 จำเลย ในข้อหาหรือฐานความผิดร่วมกันฆ่า นายฉวี อินทระ อายุ 57 ปี ยุติธรรมจังหวัดพังงา ประกอบด้วย
- จำเลยที่ 1 นายอดิศักดิ์ ทองสมจา อายุ 40 ปี
- จำเลยที่ 2 นายวีระเดช แปะดำ อายุ 22 ปี
- จำเลยที่ 3 นายสิทธิพงษ์ บุปผากร อายุ 22 ปี
- จำเลยที่ 4 นายสุวัฒน์ มารวัฒน์ อายุ 20 ปี
- จำเลยที่ 5 นายชัยชนะ เกิดมุสิก อายุ 21 ปี
คดีนี้ศาลพิเคราะห์จากคำให้การของพยานที่เกี่ยวข้องทางคดีที่เจ้าหน้าที่รวบรวมมาแสดงต่อศาลเห็นว่า จำเลยทั้ง 5 ร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้องโดยปราศจากข้อเคลือบแคลงสงสัย กลุ่มจำเลยกระทำความผิดละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยการทรมานผิดวิสัยของผู้คนโดยทั่วไป และไร้ซึ่งมนุษยธรรม ความเมตตาปรานี แม้จะมีการอ้อนวอนวิงวอนร้องขอชีวิตจากผู้ตาย ตามคำให้การบางส่วนของจำเลยที่ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน
โดยจำเลยที่ 2-5 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน แต่ให้การปฏิเสธในชั้นศาล จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธมาโดยตลอดและไม่ได้ให้การใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี หรือการพิจารณาของศาล อันเป็นพฤติการณ์ที่ไม่มีความสำนึกต่อความผิดที่ได้กระทำ ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลจึงพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งหมด
มีรายงานว่า หลังรับทราบคำพิพากษาประหารชีิวิต จำเลยทั้ง 5 คนอยู่ในสภาพหน้าซีดเผือดและเคร่งเครียด

คดีสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้น เมื่อปี 2559
โดยนายฉวี อินทระ ยุติธรรมจังหวัดพังงา และดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพังงา ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่วันที่ 20ส.ค.2559 และญาติมาแจ้งความคนหายเมื่อ 22 ส.ค.2559 ซึ่งขณะนั้นมีข่าวว่า นายฉวี ติดพันผู้หญิงคนหนึ่งที่มีแฟนแล้ว ชื่อ น.ส.นัฐนันท์ อินดำ ต่อมาแฟนของน.ส.นัฐนันท์ได้บังคับให้ล่อลวงนายฉวีมาฆ่า

ซึ่งหลักฐานสำคัญที่สามารถติดตามจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิดได้ คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ขณะน.ส.นัฐนันท์ได้มาพบกับนายฉวีที่ศาลาริมน้ำ ก่อนถูกกลุ่มแฟนหนุ่มของ น.ส.นัฐนันท์ลวงไปฆ่าที่บ้านของฝ่ายหญิงและยัดศพใส่ถังโบกปูนทับก่อนนำไปถ่วงนํ้าในคลอง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชเพื่ออำพรางศพ โดยหลังจากเป็นคดีต้องใช้เวลากว่า 10 วันจึงสามารถพบศพ









