ผบช.ภ.8 สั่งสอบคลิปเรียกดูใบขับขี่ภายใน 14 พ.ค.นี้ ส่วนของอัยการ ตำรวจไม่ขอก้าวล่วง

ผบช.ภ.8 สั่งสอบคลิปเรียกดูใบขับขี่ภายใน 14 พ.ค.นี้ ส่วนของอัยการ ตำรวจไม่ขอก้าวล่วง

คลิปตำรวจประจำด่านตรวจ ขอดูใบขับขี่ จากผู้อ้างตัวเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอม จนกลายเป็นที่สนใจในโลกโซเชียล เมื่อวานนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เรียกพบตำรวจทุกนายที่เกี่ยวข้องและสั่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายในวันอังคาร 14 พ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจตรี ฐากูร เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมพันตำรวจเอกโชคดี วัฒนพงษ์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรทุ่งใหญ่ และสิบตำรวจโทธีระพงษ์ เพชรจันทร์ทอง กับสิบตำรวจตรีเอกพล จุ้ยสองแก้ว สองตำรวจจราจร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจ เข้ารายงานตัวเป็นการด่วนเมื่อวานนี้ (10 พ.ค. 62)

เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ต่อพลตำรวจโท พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หลังกลายเป็นข่าวในโลกโซเชี่ยล จากผู้ที่แสดงตัวเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ไม่ยอมให้ตรวจใบขับขี่ เมื่อคืนวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา

ส.ต.ต.เอกพล จุ้ยสองแก้ว

ภายหลังการหารือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยว่า การดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช กลับไปตรวจสอบข้อเท็จ และให้กลับมารายงานผล ภายในวันที่ 14 พ.ค.นี้

และส่วนที่ 2 ระหว่างรอผลการสอบ ยังคงให้ผู้กำกับการตำรวจภูธรทุ่งใหญ่ รวมถึงตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 2 นาย ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิมต่อไป จนกว่าผลสอบข้อเท็จจริงจะออกมา

“ผมขอโฟกัสการตรวจสอบข้อเท็จจริงในส่วนของผมก่อนนะครับ ทำการบ้านในหน่วยผมก่อน อย่าเพิ่งขยายวงออกไปกว้างกว่านั้นเลย เพราะแต่ละหน่วยก็ทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ เท่าที่ผมทราบตอนนี้นะครับ ขอเวลานิดนึง ขอโฟกัสแค่ผลการตรวจสอบแล้วเรามาดูกันอีกที”  พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าว

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ยังกล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจ แม้นายกรัฐมนตรีจะให้ความสนใจเรื่องนี้ และไม่ได้สั่งการมาเป็นพิเศษ แต่พร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ในส่วนของอัยการ ทางตำรวจไม่ขอก้าวล่วง

ด้านสิบตำรวจตรีเอกพล ที่ปรากฎในคลิปวิดีโอ ระบุว่า ไม่เสียขวัญกำลังใจและยังปฏิบัติหน้าที่เช่นเดิม แม้ว่าก่อนหน้านี้จะถูกผู้กำกับการโยกย้ายให้ทำงานภายในสถานีตำรวจภูธรทุ่งใหญ่ชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า เพื่อมาเรียนรู้งานภายในและศึกษาข้อกฎหมายให้ถี่ถ้วน ก่อนที่จะมีคำสั่งให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม และมีการสั่งให้สอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง