คืบหน้าคดีสาวจีนตกน้ำตกโตนงาช้างดับ ตร.พุ่งเป้าฆาตกรรมอำพราง เร่งดำน้ำเก็บหินที่อาจใช้ฆ่าผู้ตายพิสูจน์ ขณะที่ผลชันสูตรชี้สาวจีนไม่ได้ถูกข่มขืน
วันที่ 28 ก.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าคดี น.ส.ไล เจียง อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งถูกพบกลายเป็นศพอยู่บริเวณแอ่งน้ำชั้น 1 ของน้ำตกโตนงาช้าง จ.สงขลา เมื่อวันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังเร่งพิสูจน์หาความจริงถึงสาเหตุของการเสียชีวิตว่ามาจากอุบัติเหตุ ฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรม แต่จากแนวทางการสืบสวนขณะนี้มีน้ำหนักไปที่ฆาตกรรมอำพราง ซึ่งน่าจะเป็นฝีมือของชายชาวจีนต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่เชิญตัวมาสอบสวน โดยยังคงให้การปฏิเสธ
โดยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และชุดสืบสวนของตำรวจท่องเที่ยวหาดใหญ่และตำรวจ สภ.ทุ่งตำเสา ได้นำนักประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ ไปดำน้ำบริเวณแอ่งน้ำชั้น 1 ซึ่งเป็นจุดพบศพอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะก้อนหินลักษณะต้องสงสัยที่อาจจะใช้ทำร้ายผู้ตาย ก่อนที่จะโยนศพลงน้ำอำพรางคดี และเจ้าหน้าที่ได้เก็บก้อนหินขนาดใหญ่ไปตรวจสอบ 1 ก้อน นอกจากนี้ บริเวณโขดหินและใบไม้พบคราบต้องสงสัยคล้ายเลือดกระเด็นอยู่หลายจุดอีกด้วย
โดยการมาดำน้ำค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมในครั้งนี้ ได้มีน้าชายของผู้ตายซึ่งเดินทางมาจากประเทศจีนได้มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ส่วนพ่อและแม่ของผู้ตาย จะเดินทางมาในวันพรุ่งนี้เพื่อให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม
ขณะที่ผลการชันสูตรศพของแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เริ่มมีผลออกมาบ้างแล้ว เช่น การตรวจภายในช่องคลอดไม่พบคราบอสุจิหรือร่องรอยการถูกข่มขืน แต่ผลการตรวจอย่างละเอียดพบว่ามีร่องรอยถูกทำร้ายหรือไม่ จุดไหนบ้าง และสาเหตุของการเสียชีวิตนั้น คาดว่าจะออกมาในอีก 1-2 วันนี้ รวมทั้งผลตรวจลายนิ้วมือแฝงที่พาสปอร์ตของผู้ตาย ซึ่งจะทำให้คดีนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่
ในขณะที่ชายชาวจีนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย และพบว่ามีความสัมพันธ์กับผู้ตายนั้น ยังอยู่ในความดูแลของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งยังคงปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องและไม่เคยรู้จักกับผู้ตาย ซึ่งสวนทางกับคำให้การของพยานแวดล้อมที่พบว่าทั้งคู่นัดเจอกันที่น้ำตกโตนงาช้างในวันเกิดเหตุ
