
ประเด็นคือ – ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ปอท. หลังมีผู้แอบอ้างชักชวนผ่านเฟซบุ๊กแอบอ้างเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเสนอเงินให้ และมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ
วันที่ 13 ธ.ค. 60 “ทีมข่าวเวิร์คพอยท์” ได้รับการร้องเรียนจาก ปอเปี๊ยะ หรือ น.ส.กาลเวลา เสาเรือน ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ ถึงพฤติกรรมจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ได้ส่งข้อความเข้ามาทางกล่องข้อความ ในทำนองที่ยื่นข้อเสนอขอให้ น.ส.กาลเวลา ยินยอมเป็น “ภรรยาลับ” โดยมีข้อเสนอจะให้เงินเป็นรายเดือน เดือนละ 220,000 บาท แลกกับการพบกันเพื่อมีเพศสัมพันธ์จำนวน 3 ครั้งต่อเดือน โดยระบุว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ผูกมัด และไม่มีการแสดงออกในความรักต่อกัน
https://youtu.be/N7PVwxyLrsw
นอกจากนี้ ยังส่งข้อความพร้อมรูปภาพอวัยะเพศของตัวเองมาให้ดูอีกด้วย โดยระบุข้อความว่า “ผมแข็งแล้วครับ”

ด้าน น.ส.กาลเวลา บอกว่า เธอเองรู้สึกตกใจกับข้อความที่ได้รับและรู้สึกกลัว โดยได้นำข้อความดังกล่าวปรึกษาครอบครัว ทีแรกตั้งใจจะแจ้งความเพื่อดำเนินคดี เพราะเข้าข่ายผิดกฎหมายการค้าประเวณี แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วเชื่อว่าชายคนดังกล่าวน่าจะแอบอ้างชื่อและรูปภาพของบุคคลอื่นใช้เปิดบัญชีเฟซบุ๊ก ในการติดต่อเธอเข้ามา จึงได้ทำการบล็อกชายคนดังกล่าวไปแล้ว

ทั้งนี้ “ทีมข่าวเวิร์คพอยท์” ได้เข้าไปตรวจสอบเฟซบุ๊กที่ชายคนดังกล่าวใช้ติดต่อมา พบว่ามีการระบุสถานะของตัวเองเป็นผู้บริหารของบริษัทเอกชนหลายแห่ง เมื่อนำชื่อและนามสกุล ค้นหาในกูเกิล กลับพบว่ามีบุคคลที่ใช้ชื่อและนามสกุลนี้ แต่เป็นอีกคนหนึ่งที่ภาพไม่ตรงกัน จึงเชื่อว่าชายคนนี้น่าจะแอบอ้างชื่อและรูปภาพคนอื่นติดต่อเข้ามา

โดยในวันนี้ (13 ธ.ค.) น.ส.กาลเวลา เสาเรือน ผู้สื่อข่าว พร้อมกับ นายบรรจง ชีวมงคลกานต์ ตัวแทนกองบรรณาธิการข่าว สถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์ ช่อง 23 เข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชายที่แอบอ้างเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน พร้อมส่งข้อความลักษณะชักชวนให้เป็นภรรยาลับและคุกคามทางเพศ โดยเสนอเงินให้จำนวนกว่า 2 แสนบาทต่อเดือน หรือพบกันเป็นครั้งคราว ครั้งละ 1.2 แสนบาท พร้อมทั้งมีการส่งรูปอวัยวะเพศชาย และรูปผู้หญิงเปลือยร่างกายมาคุกคามผ่านทางข้อความเฟซบุ๊ก

ด้าน น.ส.กาลเวลา ยืนยัน มีการติดต่อผ่านมาทางข้อความเฟซบุ๊ก และพยายามวิดีโอคอลมาหาตอนกลางคืนหลายครั้ง โดยมีความพยายามจะให้เปิดกล้องวิดีโอคอล
เบื้องต้นทีมงานได้ตรวจสอบโปรไฟล์เฟซบุ๊กของชายดังกล่าว ทราบชื่อ วรพงษ์ แก้วมณี เป็นภาษาอังกฤษ พบว่า มีเพียงรูปภาพเพียงแค่ไม่กี่ภาพ และน่าจะมีการแอบอ้างชื่อนี้ขึ้นมาใหม่ เชื่อว่าเป็นการสร้างเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมา และเมื่อตรวจสอบกับบริษัทที่มีการอ้างว่าเป็นผู้บริหารอยู่นั้นก็พบว่า ไม่มีบุคคลดังกล่าวตามที่กล่าวอ้าง










