
ประเด็น – ตำรวจนำตัวโมนาฝากขังแล้ว ขณะที่ เพื่อนบ้านที่เช่าที่ดินเผย วิญญาณน้องน้ำแกล้งเขย่าบ้าน
จากกรณีการพบศพ น.ส.จริยา ศรีศักดิ์ หรือ “น้องน้ำ” อายุ 16 ปี ที่ถูกฆ่าฝังดินอำพรางไว้ใต้ต้นตาลในไร่ ซอยศาลาลอย 4 บ้านนามอญ หมู่ที่ 7 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ภายหลังการสืบสวนพบว่า น.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือ “โมนา” อายุ 45 ปี นายจ้างสาวของน้องน้ำ เป็นผู้รู้เห็นเกี่ยวกับการตายจึงเข้าจับกุมดำเนินคดี

โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ (วันที่ 6 พ.ย.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการปราบปราม ภายหลังจับกุมตัว น.ส.กฤษณา พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 5 ได้ควบคุมตัว น.ส.กฤษณา ไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา อำนาจศาลฝากขังผัดแรก 12 วัน พร้อมทั้งคัดค้านการประกันปล่อยตัวชั่วคราว
ทั้งนี้น.ส.กฤษณา ถูกควบคุมตัวสอบสวนนานหลายชั่วโมง โดยได้แจ้งข้อหาในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ทั้งนี้ น.ส.กฤษณา ยังให้การภาคเสธ ซึ่งโมนายอมรับกับตำรวจว่าทำร้ายร่างกายน้องน้ำจริง แต่ไม่ได้ลงมือฆ่า

สำหรับการดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เบื้องต้นพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างสอบปากคำพยานและหาหลักฐาน เพื่อเอาผิดทางกฎหมาย เนื่องจากข้อหาปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ หมดอายุความแล้ว ส่วนการตรวจดีเอ็นเอร่างที่ขุดพบในจังหวัดเพชบุรี เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล คาดได้ผลการตรวจสอบในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199 ผู้ใดลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งมีอายุความ 5 ปี

อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวว่า น.ส.กฤษณา ได้ให้การซัดทอดว่าคนฆ่าน้องน้ำ คือ สาวทอมคนสนิทชื่อ น.ส.เมาท์ อายุ 32 ปี โดยเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ขณะที่น.ส.เมาท์ แวะมาพักที่บ้านของ น.ส.กฤษณา ได้ลงมือทุบตีน้องน้ำจนฟกช้ำดำเขียวไปทั่วตัวโดยไม่รู้ว่าเด็กทำผิดอะไร กระทั่งเช้าวันที่ 11 เม.ย. จึงพบว่าน้องน้ำนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เมื่อเข้าไปดูว่าพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว ด้วยความกลัว น.ส.กฤษณา จึงโทรศัพท์ไปหาน้องชายชื่อ นายบอย เพื่อปรึกษาว่าจะทำอย่างไรก็ศพ
ภายหลังตกลงกันได้ว่าให้นำไปฝังไว้ในที่ดินบ้านแม่ที่ จ.เพชรบุรี โดยว่าจ้างนายดำซึ่งเป็นคนในพื้นที่ให้ขุดหลุมเตรียมไว้ ก่อนจะอ้างว่าจะนำลูกวัวไปฝัง ซึ่งแท้จริงคือศพของน้องน้ำที่ห่อไว้อย่างมิดชิดนั่นเอง

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับ นายสมนึก สายสร้อย อายุ 54 ปี ผู้เช่าที่ดินดังกล่าว ได้ออกมาเล่าเรื่องราวลี้ลับที่เกิดขึ้นกับตัวเองโดยบอกว่า “ก่อนหน้านี้ตนเคยพบเห็นผีหญิงสาวในบริเวณดังกล่าว ซึ่งตนคิดว่าเป็นเจ้าที่เจ้าทาง จึงไม่ได้สนใจอะไรเพราะตนเพิ่งจะทำพิธีตั้งศาลเจ้าที่ไปไม่นาน แต่ก็ยังเจอมาแกล้งเขย่าบ้านบ้าง”
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ นายปราโมทย์ สุวรรณพิทักษ์ หรือบอย หนึ่งในผู้ร่วมกระทำความผิด โดยบริเวณบรรยากาศโดยรอบยังคงปกติ ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น ปิดบ้านเงียบ










