ภาพจาก MGR online
ประเด็นคือ – ผลตรวจกระสุนซากเสือดำ เหยื่อล่ากลางป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ครั้งที่ 2 พบ 8 รู ไม่ใช่ 5
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่สถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สมหมาย โชติกะนาวิน นักวิทยาศาสตร์ (สบ.4) หัวหน้าพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน, พ.ต.ท.บุญชาญ หอชะเอม รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.ทองผาภูมิ และสัตวแพทย์หญิง กนกวรรณ ตรุยานนท์ สัตว์แพทย์ชำนาญการประจำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ร่วมดำเนินการนำซากหนังเสือดำ รวมทั้งกะโหลก ชิ้นเนื้อเสือดำที่ต้มสุก ซากไก่ฟ้าหลังเทา และซากเก้ง มาตรวจสอบหาวิถีกระสุนที่ถูกอาวุธยิงเสียชีวิต กลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก
ภาพจาก MGR online
โดยจากการตรวจสอบหาวิถีกระสุนในซากเสือดำ พบว่า ถูกยิงมาจากทางด้านหน้าของเสือ และพบร่องรอยของกระสุนเบื้องต้นจำนวนทั้งสิ้น 8 จุด ส่วนซากอื่นๆ อยู่ระหว่างดำเนินการ หากพิสูจน์แล้วเสร็จจนเป็นที่แน่ชัด ก็จะใช้เป็นหลักฐานในการประกอบสำนวนคดีต่อไป
นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน (หมอล็อต) นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวในรายการตอบโจทย์ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส วันที่ 9 ก.พ.ว่า หากนำโมเดลจากลิงโกลเด้น ไลออน แทมมารีน ในอเมริกาใต้มาเทียบกับเคียงกับ เสือดำ ที่สวนสัตว์ซื้อขายกันตัวละ 800,000 บาท ถ้าจะเพาะเลี้ยงเสือดำเพื่อเพิ่มจำนวนและส่งคืนป่า และอาจต้องใช้งบประมาณสูงกว่าราคาซื้อขายในตลาด 116 เท่า หรือคิดเป็นเงินงบประมาณของเสือดำตัวละกว่า 92 ล้านบาท
“หากจะประเมินมูลค่าของสัตว์แต่ละชนิดที่มีอยู่ในป่าว่ามีมูลค่าเท่าใดเราไม่ได้หวังผลว่าจ่ายเงินชดเชยแล้วมันจะจบไม่ใช่อย่างนั้น แต่เป็นการประเมินมูลค่าให้เห็นถึงความสำคัญว่า หากเสือหายไป 1 ตัว มันจะส่งผลกระทบถึงระบบนิเวศ การอนุรักษ์มากแค่ไหน แต่บางครั้งเมื่อเราจะพูดบอกชาวบ้านถึงผลกระทบต่างๆ อาจไม่เห็นภาพ แต่ถ้าหากเราบอกว่า เสือตาย 1 ตัว เสียหายถึง 92 ล้านบาท การรับรู้ถึงผลกระทบมันจะเกิดขึ้นทันที” นายสัตวแพทย์ ภัทรพล ระบุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พิสูจน์แล้ว ‘เสือดำ’ ถูกยิง 5 นัด กระสุนเจาะหัวและลำตัว
- เจ้าหน้าที่ชี้ “เสือดำ” ที่ถูกฆ่าเชื่องคน หลังจากนี้อาจไม่เจอในห้วยปะชิอีก
ที่มา MGR online
