“ฟิล์ม รัฐภูมิ” เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ลำลูกกา ถูกสาวอ้างเป็นพนักงานบริษัททางการเงินแห่งหนึ่ง หลอกขายเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ สูญเงินกว่า 3 ล้านบาท
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 ต.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิลม์ ดารานักแสดง เดินทางมาพร้อมพี่ชายและที่ปรึกษากฎหมายบริษัท ไอเพลย์ ออลล์ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ แสนโท ร้อยเวรสอบสวน สภ.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ให้ดำเนินคดีกับ นางสาวภัททิรา กรรมการของบริษัททางการเงินแห่งหนึ่ง ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ที่อ้างตัวเป็นคนนำเครื่องรูดบัตรของธนาคารแห่งหนึ่งมาขาย
ดร.จอร์น นพดล วศินสุนทร ที่ปรึกษาทีมทนายความ เผยว่า ตนเองพร้อมกับ ฟิล์ม รัฐภูมิ พร้อมพี่ชายได้เดินทางมาที่ สภ.ลำลูกกา และเป็นผู้เสียหาย ในคดีฉ้อโกง เนื่องจากบริษัท ไอเพลย์ออลล์ ได้ทำสัญญากับ นางสาวภัททิรา กรรมการของบริษัทางการเงินแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจำเลย หลังแอบอ้างว่า สามารถติดต่อทำสัญญาหรือมีอำนาจที่จะอนุมัตินำเครื่องรูดบัตรของธนาคารแห่งหนึ่งออกมาจำหน่ายได้ในจำนวนมาก เนื่องจาก ฟิล์ม รัฐภูมิ และพี่ชาย กำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับ sme และมีการทำโปรเจคเกี่ยวกับ SME จึงต้องใช้เครื่องรูดบัตรเป็นจำนวนหลายเครื่อง ทำให้บุคคลดังกล่าวเข้ามาแอบอ้างเพื่อขาย โดยเสนอให้จ่ายค่าธรรมเนียม เครื่องละ 300 บาท จำนวน 10,000 เรื่อง มูลค่ารวม 3 ล้านบาท แต่เมื่อถึงกำหนดนัดหมายทางบริษัทของ ฟิล์ม รัฐภูมิ กลับไม่ได้รับของ และเมื่อติดต่อกลับไป กลับโดนข่มขู่และบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จึงแน่ใจว่าอาจถูกมิจฉาชีพฉ้อโกงเงิน เนื่องจากไม่ได้รับของตามที่เสียเงินไป
โดยในขั้นตอนการโอนเงินนั้น ทางบริษัมได้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของ นางสาวภัททิรา ไปจำนวน 2 ครั้ง ครั้งละ 1.5 ล้านบาท โดยโอนที่อำเภอลำลูกกา 1 ครั้ง และภายในตลาดไทอีก 1 ครั้ง สำหรับการมาติดต่อของนางสาวภัททิรา ได้มีการแสดงตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารชื่อดัง มีกระเป๋าเอกสารพร้อมหนังสือของธนาคารมาแสดงให้ดูทั้งหมด
ทำให้ทางบริษัทหลงเชื่อ แต่เมื่อรู้ตัวจึงตรวจเช็คไปที่ธนาคาร ได้รับข้อมูลว่าบุคคลดังกล่าวที่มาเสนอขายเครื่องรูดบัตรนั้น เป็นตัวแทนของธนาคารจริง แต่เป็นตัวแทนอิสระไม่ใช่พนักงานบริษัท จากนั้นทางบริษัทจึงติดต่อสอบถามไปที่สำนักงานใหญ่ของธนาคาร จึงมีหนังสือแจ้งมาว่า บุคคลดังกล่าวเป็นพนักงานอิสระของธนาคาร แต่ไม่มีอำนาจในการอนุมัติหรือทำสัญญาใด ๆ แทนธนาคาร อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการรับเรื่องไว้แล้ว พร้อมทั้งจะเร่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
