สาวใหญ่เมืองระยอง 4 คน พากันไปเก็บเห็ดในป่าทึบ โดนฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียวร่างกระเด็น เสียชีวิต 2 ราย
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (6 พ.ค. 61) ร.ต.อ.ไมตรี พากุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.มาบตาพุด ได้รับแจ้งจากกู้ภัยปู่ทิม อิสริโก จุดมาบตาพุด ว่ามีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่า โดยเป็นผู้หญิง จำนวน 2 ราย ที่บริเวณริมถนนสาย มาบยา 3191 เป็นป่าทึบ หลังโรงงานเอ็นวายเค ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ในป่าทึบข้างคลอง จำนวน 2 ราย เป็นหญิงทราบชื่อ นางเพียรทอง ศรีษะเกษ อายุ 50 ปี สภาพศพมีรอยไหม้ที่คอ มีรอยเขียวช้ำตามลำตัว และนางไพบูลย์ งามหล้า อายุ 58 ปี พบบาดแผลเขียวช้ำตามตัว นอนอยู่ใกล้ๆ กัน
ในที่เกิดเหตุยังพบหญิงสาว 2 คน คือลูกสาวผู้เสียชีวิตนั่งร้องไห้เสียใจอยู่ข้างศพ ทราบชื่อ น.ส.พรวิไล ศรีษะเกษ อายุ 20 ปี และน.ส.กนกพร ศรีษะเกษ อายุ 15 ปี นอกจากนี้ยังพบต้นกระถินณรงค์มีรอยไหม้ที่ยอดต้นและเปลือกไม้ฉีกจากแรงฟ้าผ่าลงมา
จากการสอบถามนางวิไลวรรณ์ ศรีกุลวงศ์ อายุ 55 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ตนเองและนางนิ่มนวล วงษ์ชาเลื่อน อายุ 45 ปี และผู้เสียชีวิตรวม 4 คน ได้ชวนกันมาเก็บเห็ดป่าและเห็ดยูคาลิปตัส ที่จะออกตอนหลังฝนตกตามบริเวณโคนต้นไม้ ขณะนั้นตนและนางนิ่มนวล เพื่อนอีกคนหนึ่งได้เดินมาด้านบนแล้ว หลังจากเก็บเห็ดเสร็จได้ยินเสียงฟ้าร้องดัง ฝนลงเม็ด และก็เกิดฟ้าผ่าลงมาดังเปรี้ยง ที่นางเพียรทอง และนางไพบูลย์ ร่างกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง ทำให้เสียชีวิตทั้ง 2 รายดังกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.ไมตรี กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากฟ้าผ่าลงมาที่ยอดต้นกระถินจนทำให้มีรอยไหม้ ก่อนลงมาที่ตัวของนางเพียรทอง ซึ่งได้สวมใส่สร้อยสแตนเลส 3 กษัตริย์ ห้อยหลวงพ่อโสธร 1 องค์ ที่คอ ซึ่งน่าจะเป็นสื่อล่อฟ้า และยังพบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงอีกด้วย ทำให้แรงกระแทกไปถูกนางไพบูลย์ที่อยู่ใกล้ๆ จนทำให้เสียชีวิต
ทั้งนี้ ตำรวจได้มอบศพนำไปชันสูตรที่ รพ.เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระยอง (มาบตาพุด) หาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งอย่างละเอียดต่อไป
