ภรรยาโทรแจ้งตำรวจให้จับสามี เพราะต้องการให้ถูกจับไปบำบัดยาเสพติด แต่กลับถูกตำรวจยิงจนเสียชีวิต ล่าสุด ร้องขอความเป็นธรรมที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 61 เวลา 20.00 น. กล้องวงจรปิดจับภาพ ตำรวจ สภ.พรหมครี จ.นครศรีธรรมราช ไล่จับกุมผู้ต้องสงสัยมียาเสพติดและมีอาวุธปืน โดยมีการวิทยุสกัดจับแต่ผู้ต้องสงสัยขับรถยนต์หลบหนี จนถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมบริเวณจุดยูเทิร์น สะพานวังรัก หมู่ 5 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับยิงต่อสู้กันจนทำให้ผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตคารถกระบะในที่เกิดเหตุ
https://youtube.com/watch?v=UZI9LSIPfWE
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายประภวิษณุ์ บุญเนือง อายุ 44 ปี ในรถพบอาวุธปืนขนาด .38 วางอยู่ในช่องประตูรถด้านขวา ภาพหลังชันสูตรพลิกศพ ญาติ ๆ ได้นำศพ นายประภวิษณุ์ บำเพ็ญกุศลที่ วัดพรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช และฌาปนกิจไปเมื่อ วันที่ 7 พ.ค. 61 ที่ผ่านมา
โดยภรรยาของผู้ตาย น.ส.ฐานิส หริกจันทร์ อายุ 35 ปี บอกว่า “ยืนยันแน่นอนว่าสามีไม่ได้ค้ายา” แล้วยาบ้าที่พบจำนวน 107 เม็ดในรถ มองว่าตอนค้นรอบแรกทำมาไม่เจอ แต่พอค้นอีกครั้งกลับเจอยาบ้า แต่ก็รับว่าสามีเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเสพจริง ในวันเกิดเหตุต้องการแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมสามีเพื่อให้โอกาสสามีเข้าสู่กระบวนการบำบัด ไม่ใช่ต้องการให้สามีเสียชีวิต แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้โอกาส
น.ส.ฐานิส หริกจันทร์ ภรรยาของผู้เสียชีวิต
น.ส.ฐานิส ยังบอกอีกว่า สามี มีชื่อในบัญชีดำค้ายาเสพติด อยากเรียกร้องให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรม นอกจากนี้น้องสาวของเธอยังบอกว่าสามีได้โทรมาบอกเหมือนเป็นลางร้าย โดยสามีกล่าวตอนนั้นว่า ให้ดูแลลูกของเขาให้ดี แลบอกว่า รักภรรยามากๆ
ขณะที่ นายสมปราชญ์ บุญเนือง อายุ 44 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า “ขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพี่ชาย ไม่เชื่อว่าพี่ชายค้ายา ในอดีตพี่ชายเป็นอาจารย์สอนดูไพ่ยิปซีมีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งญาติและเพื่อนๆไม่เชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจถือว่าเกินกว่าเหตุอย่างมาก ทำไมถึงเลือกใช้วิธีรุนแรง แล้วทำไมลูกปืนที่อยู่ในกระบอกของพี่ชายที่มีอยู่ 4 นัด ทำไมไม่ผ่านการยิงแม้แต่นัดเดียว มองว่าเจ้าหน้าที่ใช้อารมณ์ส่วนตัวมาตัดสิน”
พ.ต.อ. อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช
ด้านผู้กำกับการ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พันตำรวจเอก อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
