
เกิดเหตุวัยรุ่นขับรถกลับจากสถาปนาสถาบันเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ย่านบางกะปิ ถูกชายอ้างเป็นตำรวจยิงเสียชีวิต จนทำให้กลุ่มเพื่อนๆ ของผู้ตายกรูกันจะเข้ามาทำร้าย ด้านผบช.น. เผย ชายเสื้อแดงเป็นตำรวจจริง
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (11 ก.พ.62 เวลา 01.30 น.) ได้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายนี้เกิดขึ้นเป็นกลุ่มเพื่อนของ นายเอกชัย บุญรัตน์ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะช่างยนต์ วิทยาลัยเทคโนแห่งหนึ่ง ย่านบางกะปิ ที่ถูกคนอ้างว่าเป็นตำรวจยิงใส่จนเสียชีวิต 4 นัด บริเวณป้ายรถเมล์ ปากซอยร่มเกล้า 6 บนถนนร่มเกล้า แขวงและเขตมีนบุรี กทม. นอกจากนี้ บริเวณที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 7 ปลอก ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน
โดยเพื่อนๆ ของผู้เสียชีวิตกว่า 50 คน ได้เข้าไปจะทำร้ายชายต้องสงสัย ทั้งจะเข้าไปไปขัดขวาง รวมถึงตะโกนโวยวาย จนกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตได้วิ่งตรงไปทุบรถและเข้าทำร้ายร่างกาย จนชายต้องสงสัยชักอาวุธปืนออกมาเพื่อป้องกันตัว แต่กลุ่มเพื่อนผู้ตายไม่หยุด ชายต้องสงสัยจึงยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด และยิงเข้าใส่กลุ่มเพื่อนผู้ตาย อีก 4 นัด จนต้องวิ่งหลบหนีกันอลม่าน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากนั้นตำรวจได้นำตัวชายต้องสงสัยไปที่ สน.มีนบุรี และจะเรียกสอบปากคำพยานที่เกิดเหตุอีกครั้ง
https://youtube.com/watch?v=_Ym7oVKFXeo
ล่าสุด วันนี้ (11 ก.พ.62) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า ชายสวมเสื้อแดงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 จริง เบื้องต้นได้รับรายงานว่าก่อนเกิดเหตุชุดปราบปรามยาเสพติดของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ไปเชิญตัวกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด เพื่อนำตัวมาขยายผลสอบปากคำ ที่สน.มีนบุรี แต่ขณะเดินทางกลับได้พบกับกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่ง คาดว่าเป็นคู่อริกับผู้ที่ถูกเชิญตัวใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาที่รถกระบะ ตำรวจนายดังกล่าวจึงใช้อาวุธปืนประจำกายยิงสวน เพื่อป้องกันตัวและปกป้องผู้ที่อยู่บนรถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งหากข้อเท็จจริงพบว่า ตำรวจนายดังกล่าวยิงเพื่อป้องกันตัวและบุคคลอื่นที่อยู่ภายในรถ ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
ด้านพันจ่าอากาศเอกนภัสกร บุญรัตน์ พร้อมด้วยนางเจียมใจ บุญรัตน์ พ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า ปืนที่พบกับลูกชายของตนไม่ใช่ปืนของตนเอง ยอมรับว่าปืนของตนเองยังมีอยู่และไม่เคยปล่อยให้ลูกชายนำไปพกพาแต่อย่างใด โดยในวันนี้ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี เพื่อขอเอกสารในการไปรับศพลูกชาย ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ในบ่ายวันนี้เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดลาดบัวขาว เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ในการกระทำของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ พร้อมเผยปกติลูกชายก็มีเรื่องตามประสาของนักเรียนช่างที่เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่เคยมีปัญหาในเรื่องยาเสพติด ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองยังไม่ได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สงสัยว่าทำไมต้องยิงให้ถึงตาย ทำไมไม่จับกุม
จนเมื่อเวลา 14.30 น. ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ครอบครัวของผู้เสียชีวิต เดินทางมารับศพ นายเอกชัย บุญรัตน์ อายุ 22 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 ยิงเสียชีวิต ซึ่งแพทย์ระบุผลชันสูตรเบื้องต้น สูญเสียโลหิตปริมาณมากในช่องอกจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายหัวใจและปอด โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก ซึ่งทางครอบครัวจะนำศพไปตั้งสวดที่วัดลาดบัวขาว โดยจะมีพิธีรดนำศพในเวลา 17.30 น.

พันจ่าอากาศเอกนภัสกร บุญรัตน์ บิดาผู้เสียชีวิต
โดยบรรยากาศที่ศาลา 1 วัดลาดบัวขาว ทางญาติได้นำศพนายเอกชัย มาประกอบพิธีทางศาสนา โดยเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาบรรดาเพื่อนของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจในพิธีรดน้ำศพ ซึ่ง 1 ในเพื่อนสนิทของนายเอกชัย เปิดใจกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่าวันเกิดเหตุตนได้เดินทางกลับบ้านพร้อมกับผู้เสียชีวิต แต่ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์แซงหน้านายเอกชัยล่วงหน้ไปก่อน แต่พอถึงบ้านจึงทราบข่าวว่าเพื่อนตนเสียชีวิต
ด้านพันจ่าอากาศเอกนภัสกร บุญรัตน์ เปิดใจอยากถามไปยังตำรวจว่าทำไมถึงไม่มีการแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมให้ถูกต้อง และทำไมต้องยิงจนถึงขึ้นเสียชีวิต แค่การยิงระงับเหตุก็น่าจะเพียงพอแล้วหรือไม่ ยอมรับว่าเพื่อนของตนเองอาจเกเรบ้าง และอาจพกปืนเพื่อป้องกันตัวจากคู่อริ แต่ตำรวจก็ไม่น่าทำรุนแรงถึงเพียงนี้ ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แก่นายชวลิต (ตำรวจอาสา) และด.ต.เอกกวีแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สกัดจับยาเสพติดย่านร่มเกล้า นศ.ถูกยิงดับ









