รวบแล้ว ! ชายแปลกหน้าบุกบ้าน “เปิ้ล นาคร” อ้างอยากเจอ-เล่าประวัติไว้ถ่ายหนัง

ประเด็นคือ – เจอตัวแล้วหนุ่มเพี้ยนบุกบ้าน “เปิ้ล-นาคร” อ้างเป็นแฟนคลับมานาน เผยอยากเจอตัวเพราะอยากเล่าเรื่องประวัติให้ฟัง เผื่อจะเอาไปสร้างหนัง

วันที่ 14 ต.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีชายแปลกหน้า ขับรถเก๋งเข้าไปจอดหน้าบ้าน ของดารานักแสดงอารมณ์ดีนายนาคร ศิลาชัย หรือเปิ้ล นาคร อายุ 52 ปี อยู่ หมู่บ้านลัดดาไทยรีสอร์ต ซอยรามอินทรา เขตบางเขน แต่เจ้าตัวไม่อยู่บ้าน มีเพียงคนรับใช้ ทำให้นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง ต้องเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม เพื่อให้ตำรวจตามหาตัวชายแปลกหน้าคนดังกล่าว

พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โคกคราม เปิดเผยว่า ขณะนี้เจอตัวชายแปลกหน้าคนดังกล่าวแล้ว ชุดสืบสวนกำลังเดินทางไปนำตัวมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา มาสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นทราบชื่อ

นายพงศ์ฐกาญจน์ ไผ่เรือง อายุ 35 ปี พร้อมกับประสานไปยังเปิ้ล นาคร ให้มาดูตัวเพื่อยืนยัน สักพักตำรวจนำตัวนายพงศ์ฐกาญจน์ มาถึงโรงพักพร้อมเด็กชายวัย 5 ขวบคนหนึ่ง โดยนายพงศ์ฐกาญจน์อ้างว่า เป็นลูกของหลานสาว

จากการสอบสวนนายพงศ์ฐกาญจน์ให้การว่า ตนเป็นแฟนคลับของเปิ้ล นาคร มานานโดยติดตามผลงานมาตลอด จนตั้งให้เป็นไอดอลของตน และตั้งฉายาให้เปิ้ลว่า “ปอน นาเคิ้ล” เพราะเห็นว่าเปิ้ลเป็นคนตลก กระทั่งทราบต่อมาว่า พี่ชายตนย้ายบ้านมาอยู่ใกล้กับเปิ้ล นาคร ตนเคยเดินทางมาหาหลายครั้งแต่ไม่เคยเจอตัว กระทั่งวันเกิดเหตุตนยืมรถคนรู้จัก ขับมาหาเปิ้ล นาคร อีกครั้งเพราะอยากเจอตัว เพื่อจะได้เล่าเรื่องชีวิตของตนให้ฟัง เผื่อเปิ้ลสนใจจะเอาไปสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่ไม่เจอมีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในบ้าน ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรกับครอบครัวเปิ้ล นาคร อีกทั้งตนยังป่วย ขอโทษสิ่งที่ทำลงไป

ต่อมาเปิ้ล นาคร ให้สัมภาษณ์ว่า ตนรู้สึกดีใจที่ตำรวจเจอตัวชายแปลกหน้า แต่รู้สึกตกใจที่เห็นมากับเด็กด้วย ครั้งแรกยังคิดมีการลักพาตัวเด็ก จากการพูดคุยกับผู้ต้องหา ตนรู้สึกเห็นใจแต่ไม่รู้จะโกหกหรือเปล่า เพราะตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และได้ปรึกษากับทางตำรวจแล้วสรุปได้ว่าจะให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ไม่อยากให้ติดคุกเพราะสงสารเด็ก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เปิ้ล นาคร ให้สัมภาษณ์อยู่นั้น เด็กน้อยวัย 5 ขวบหลานของนายพงศ์ฐกาญจน์ เดินเข้ามาสะกิดแขนของเปิ้ล นาคร พร้อมกับพูดว่า “อย่าให้ตำรวจจับลุงหนูนะ หนูไม่อยากกลับไปอยู่กับแม่”

ด้าน ร.ต.ท.อนุชาติ โคตรสีเขียว รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดีเปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหา มีลักษณะคล้ายคนป่วยทางจิต แต่ไม่มีเอกสารใดยืนยัน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาบุกรุกและทำประวัติไว้ก่อนปล่อยตัวไปชั่วคราว จากนั้นจะเรียกตัวมาดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง ส่วนคดีนี้ผู้เสียหายสามารถถอนแจ้งความได้