น.ส.วรรษิการ เติมธนาภัทร หรือ แอนนา หัวหน้าแก๊งเรียกค่าไถ่
ตร.รวบตัวหัวหน้าแก๊งสาวไทย “แอนนา” ลักพาตัวทำร้าย ก่อนเรียกค่าไถ่ 15 ล้าน สาวนักธุรกิจจีน อ้างถูกกุเรื่องกลั่นแกล้ง โวเหยื่อเป็นหนี้ 47 ล้าน
วันที่ 23 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ถนนวิภาวดีรังสิต รองผู้บังคับการ ตำรวจท่องเที่ยว 1 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง แถลงผลการจับกุม น.ส.วรรษิการ เติมธนาภัทร หรือ แอนนา อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.สมุทรปราการ หลังศาล จ.สมุทรปราการ อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 6 คน ซึ่งได้ร่วมกันก่อเหตุอุ้มเรียกค่าไถ่ น.ส.จินไช่ เซน อายุ 39 ปี นักธุรกิจสาวชาวจีน จำนวน 15 ล้านบาท ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดยผู้ต้องหามีทั้งหมด 12 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 8 คน ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 ราย เป็นชาวจีน ต่อมา ทางตำรวจสืบทราบว่า น.ส.วรรษิการ ผู้ต้องหารายนี้ ได้กบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ย่านรามคำแหง จึงนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวได้ ซึ่งขณะนี้คงเหลือเพียงผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนี อีกเพียงแค่ 6 ราย เป็นผู้ต้องหาชาวจีน 4 ราย และผู้ต้องหาชาวไทยอีก 2 ราย
อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 4 คน ได้มีการเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนผู้ต้องหาชาวไทย ขณะนี้กบดานซ่อนตัวอยู่พื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
หนึ่งในผู้ต้องหา
จากการสอบสวน น.ส.วรรษิการ ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ กรรโชกทรัพย์ ผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งทั้งหมดเป็นการถูกกลั่นแกล้งที่ผู้เสียหายกุเรื่องขึ้นมา ส่วนที่มีการพาผู้เสียหายไปตามสถานที่ต่างๆ เป็นการพาไปดูแล และท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อไกล่เกลี่ยให้ผู้เสียหายยินยอมชดใช้หนี้สิน จำนวน 47 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้สินที่ผู้เสียหายได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจส่งออกและนำเข้าสินค้า หรือชิปปิ้งกับเธอ และชาวจีนอีก 4 คน ที่เดินทางกลับประเทศไปก่อนหน้านี้
ซึ่งระหว่างการเจรจามีการตกลงขอชดใช้หนี้สิน จำนวน 17 ล้านบาท แต่เนื่องจากเงินทั้งหมดของผู้เสียหายที่มีอยู่นั้น อยู่ในบัญชีธนาคารของสามีของผู้เสียหาย จึงมีการติดต่อไปยังสามีของผู้เสียหายเพื่อให้โอนเงินมาให้รอบแรก จำนวน 10 ล้านบาท และจะมีการโอนให้อีกครั้งจำนวน 7 ล้านบาท เมื่อมีการโอนเงินมาให้เรียบร้อย จึงพาผู้เสียหายมาส่งที่ริมถนนบางนา-ตราด
ส่วนผู้ต้องหาชาวไทย 5 คน ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าทั้งหมดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เพราะว่า น.ส.วรรษิการ ได้ว่าจ้างให้มาทำหน้าที่ช่วยดูแลผู้เสียหายเท่านั้น โดยหลังจากนี้ น.ส.วรรษิการ จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดต่อสู้คดียืนยันความบริสุทธิ์ต่อไป
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อในคำให้การ เนื่องจากแนวทางการสืบสวนพบว่า น.ส.วรรษิการ นั้นเป็นหัวหน้าขบวนการ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน บช.ทท. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณภาพจาก : touristpolice
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ลงดาบ! ตม. เอี่ยวอุ้มสาวจีนเรียก 10 ล้าน ออกหมายจับอีก 6 ราย
