
ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก กับประเด็น ‘บทลงโทษประหารชีวิต’ แน่นอนว่านี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรื่องราวเหล่านี้ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกัน ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อที่เรียกร้องหาความยุติธรรม และผู้ที่มองว่าการประหารชีวิต ไม่ได้ช่วยให้อาชญากรลดลง
ภาพยนตร์หลายเรื่องได้นำประเด็นอ่อนไหวนี้ มาถ่ายทอดโดยใช้ตัวละคร ‘นักโทษ’ เป็นตัวเอกในการดำเนินเรื่อง สอดแทรกทั้งเรื่องราวชีวิต ความรัก รวมไปถึงห้วงนาทีสุดท้ายของนักโทษประหารชีวิต
โดยภาพยนตร์สุดโด่งดัง ที่ถ้าพูดถึงนักโทษ หรือการประหารชีวิตแล้ว เชื่อว่า 1 ใน 4 เรื่องนี้ จะต้องเป็นที่รู้จัก ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่งอย่างแน่นอน วันนี้จึงอยากพาทุกคนไปย้อนชมภาพยนตร์ 4 เรื่อง ที่ล้วนบอกเล่าเรื่องราวของนักโทษประหารชีวิต ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ที่ก็มีทั้งครอบครัว และมีคนที่รัก ไม่แตกต่างกับคนธรรมดาทั่วไป โดยภาพยนตร์ทั้งหมดถูกถ่ายทอดด้วยเส้นเรื่อง และอารมณ์หนังที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพียงเพื่อหวังให้ทุกคนได้ร่วมกันตกผลึกและหาคำตอบกับประเด็นดังกล่าวไปพร้อมกัน

Dead Man Walking (1995) คนตายเดินดิน ภาพยนตร์สุดดราม่า บอกเล่าเรื่องราวของ แมทธิว พอนเซเลต นักโทษที่รอการประหารชีวิต ในคดีฆ่าข่มขืน เขาได้เขียนจดหมายเพื่อติดต่อกับแม่ชี เฮเลน พรีจีน เพื่อหวังให้เธอมาเยี่ยมในคุก และรับฟังเรื่องราวของเขา ซึ่งเธอก็ยินดีที่จะไป แม้จะถูกทุกคนประณาม และครหาว่าเธอเป็นแม่ชีประหลาด ที่เลือกเข้าข้างฆาตกร
อคติและความเกลียดชังยิ่งถาโถมหนัก เมื่อแม่ชีได้ช่วยให้ แมทธิว พอนเซเลต ได้พิจารณาลดโทษประหาร แม้มันจะไม่สำเร็จ แต่แรงแค้นที่มากพอ ก็ทำให้เกิดการประท้วงสนับสนุนให้มีการประหารชีวิต ซึ่งเรื่องราวก็ได้ดำเนินไปจนถึงวาระสุดท้ายของนักโทษ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถูกสร้างขึ้นจากเรื่องจริงของคดีดังในอดีต ที่เหยื่อถูกข่มขืน สามารถเอาชีวิตรอดออกมาได้ และกลายเป็นพยานสำคัญเพียงคนเดียวที่จะสามารถชี้ความผิดให้คนร้ายถูกตัดสินประหารชีวิต หากแต่ในทางกลับกัน ตัวละครแม่ชี ผู้มีตัวตนอยู่จริง กลับก้าวข้ามทุกความเกลียดชัง ทุกแรงแค้น และใช้ความเมตตาปลดเปลื้องความผิดบาปในใจของนักโทษ และทำให้เขาสำนึกผิดได้ในนาทีสุดท้ายของชีวิต
ตลอดการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้ชมต้องเผชิญกับความรู้สึกบีบคั้น เศร้าใจ ไปกับเนื้อหาอันหนักอึ้ง และความขมขื่นในชะตากรรมของทั้งเหยื่อและนักโทษ ทำให้ในตอนจบถ้าจะมีใครสักคนต้องเสียน้ำตา ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก

The Green Mile (1999) ปาฏิหาริย์แดนประหาร ภาพยนตร์กึ่งแฟนตาซี เล่าเรื่องราวของ พอล เอดจ์คอมบ์ หัวหน้าผู้คุมนักโทษ ที่มีหน้าที่นำนักโทษประหารเข้าสู่แดนประหาร โดยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า โดยวันหนึ่ง เขาก็ต้องพบเจอกับเรื่องแปลกประหลาดมากมาย เมื่อ จอห์น ค็อฟฟี่ นักโทษผิวดำร่างยักษ์ ผู้ถูกกล่าวหาในคดีฆาตกรรมเด็กหญิงสองคน ได้เข้ามาสร้างสิ่งมหัศจรรย์สุดเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่ในตอนแรก ทุกคนต่างตราหน้าว่านักโทษรายนี้ทั้งโหดเหี้ยม น่ากลัว และอันตรายกว่าใคร เพียงเพราะสีผิวและรูปลักษณ์ที่ดูแตกต่าง แต่เรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้น เขาทั้งอ่อนโยน และเป็นมิตรกับทุกสิ่ง จนทำให้เหล่าผู้คุมเริ่มรู้สึกผูกพันกับ จอห์น ค็อฟฟี่ จนเกิดคำถามในใจว่า หรือเขาจะเป็นแพะรับบาปในคดีนี้
ภาพยนตร์ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงช่องโหว่ของกฎหมายทางสังคมในยุคนั้น โดยจงใจใช้ตัวละครผิวสีเพื่อเป็นตัวแทนของการถูกเลือกปฏิบัติ และการถูกตีตราว่าเป็นผู้ร้ายเพียงเพราะเขาดูเหมือน แม้เรื่องราวจะค่อยๆ คลี่คลายในตอนท้ายว่า จอห์น ค็อฟฟี่ อาจไม่ใช่คนร้ายตัวจริง แต่ก็ดูเหมือนว่า อคติที่ฝังลึกในจิตใจจะไม่สามารถลบล้างได้ด้วยความจริง

Monster ปีศาจ (2003) ภาพยนตร์ที่สร้างจากชีวิตจริงของ ไอรีน วูร์นอส ผู้มีอาชีพเป็นโสเภณี ที่ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเป็นคนแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเธออ้างว่า เหยื่อชายทุกรายที่เธอฆ่า ได้ลงมือข่มขืนหรือพยายามจะข่มขืนเธอ แม้ในความเป็นจริงแล้วจะมีเพียงชายคนเดียวเท่านั้น ที่ลงมือทารุณ ข่มขืน และทำร้ายเธอปางตาย จนเธอพลั้งมือฆ่า
โดยภาพยนตร์ได้เล่าถึงช่วงที่ ไอรีน ได้พบรักกับ เชลบี้ สาวผู้มีใจรักร่วมเพศเต็มขั้น ซึ่งทั้งคู่ต้องหนีไปอยู่ด้วยกัน ไอรีน จึงตัดสินใจเลือกวิธีหาเงินเพื่อปรนเปรอคู่รัก และเอาตัวรอดในแต่ละวัน ด้วยการฆ่าชายหนุ่มที่จะมาซื้อบริการกับเธอ จนท้ายที่สุด เธอก็ได้สังหารเหยื่อชายไปถึง 7 ราย และถูกจับรอการประหารชีวิต
จากเหยื่อสู่การเป็นผู้สังหาร ภาพยนตร์ได้พาทุกคนไปสัมผัสถึงจิตใจของฆาตกรในอีกมุมหนึ่ง ที่ต้องเผชิญกับทั้งแรงกดดันทางสังคม ความยากจน และ การถูกมองเป็นวัตถุทางเพศราคาถูก สิ่งเหล่านี้ล้วนกร่อนทำลายความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และเป็นมูลเหตุที่บีบคั้นให้เธอต้องเลือกเดินทางผิด ภาพยนตร์จึงได้สะท้อนเรื่องราวของนักโทษในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจ และเผลอร่วมลุ้นไปกับเรื่องราวชีวิตของเธอ แม้เธอจะเป็นฆาตกรอันโหดเหี้ยมก็ตาม

Capote (2005) หนึ่งในภาพยนตร์คุณภาพ ที่สร้างจากเรื่องจริงของ ทรูแมน คาโพที นักเขียนชื่อดัง โดยภาพยนตร์เล่าเรื่องช่วงที่เขาประสบความสำเร็จสูงสุด และกำลังหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในงานเขียน จนมาพบกับคดีฆาตกรรมยกครัว ทำให้เขาได้เฝ้าติดตามและสำรวจจิตใจของฆาตกร ผ่านการสัมภาษณ์ เพื่อหวังนำข้อมูลไปใช้ในการเขียนหนังสือ จนออกมาเป็นหนังสือเรื่อง In Cold Blood หรือ คนเลือดเย็น
แม้ Capote จะเป็นภาพยนตร์เชิงอัตชีวประวัติ ที่ไม่ได้มีวิธีการเล่าเรื่องที่น่าตื่นเต้น หรือมีจุดพลิกผันให้ผู้ชมสนใจ ในทางตรงข้ามภาพยนตร์เลือกที่จะเล่าเรื่องอย่างตรงไปตรงมา โดยใช้ชั้นเชิงในการแสดงของนักแสดงนำ ถ่ายทอดเนื้อหาที่ลึกซึ้งดึงดูดผู้ชม ทั้งยังสะท้อนแง่คิดให้ผู้ชมเห็นว่า แท้จริงแล้วคนธรรมดาอาจมีจิตใจน่ากลัวกว่าฆาตกรก็เป็นได้ เหมือนอย่างที่ ทรูแมน คาโพที เลือกใช้นักโทษประหารชีวิต เป็นเครื่องมือนำไปสู่ความโด่งดัง
แน่นอนว่า ภาพยนตร์ทั้ง 4 เรื่องนี้ คงไม่สามารถยุติ หรือตอบคำถามเกี่ยวกับนักโทษประหารได้ถูกใจทุกคน หากแต่ภาพยนตร์ต้องการนำเสนอมุมมองทั้ง 2 ด้าน เพื่อชี้ชวนให้ทุกคนได้ลองทบทวนในสิ่งที่คิด ท้ายที่สุดแล้ว ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ก็อาจเป็นคำตอบอย่างหนึ่งของข้อถกเถียงครั้งนี้ก็เป็นได้
อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews






![[ประมวลภาพ] เหนือคำบรรยายสมการรอคอย ใน “Omoinotake One Man Live in Taipei & Bangkok”](/_next/image?url=https%3A%2F%2Fimages.workpointtoday.com%2Fworkpointnews%2F2025%2F12%2F18194713%2F1766062032_006495-workpointtoday.webp&w=2048&q=75)


