
ตำรวจปราบปรามยาเสพติดรวบ 3 ผู้ต้องหาดัดแปลงถังแก๊สแอลพีจี ซ่อนยาเสพติด 3 แสนเม็ด จากเชียงรายมุ่งหน้ากรุงเทพฯ ชั้นใน แต่ไม่รอดถูกจับกุมได้ที่จังหวัดลำปาง
วันที่ 19 พ.ย.2561 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงจับกุม 3 ผู้ต้องหา ขนยาบ้า 3 แสนเม็ด ที่ดัดแปลงถังแก๊สแอลพีจี ที่ติดตั้งไว้หลังรถเก๋งไว้เป็นช่องลับในการขนยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือมาส่งต่อให้กับเครือข่ายค้ายาเสพติดเข้ากรุงเทพฯ ชั้นใน โดยตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวจากจังหวัดเชียงราย จนเข้าสู่จังหวัดลำปาง จึงได้นำเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก และพบวัตถุต้องสงสัยที่ท้ายรถจึงเข้าตรวจสอบจนพบว่าของกลางทั้งหมดอยู่ในถังแก๊สแอบพีจีที่ดีดแปลงไว้เลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า คดีนี้สามารถจับผู้ต้องหาได้ 3 คน ซึ่งเกี่ยวข้องกันเป็นบุคคลในครอบครัว และก่อนหน้านี้เคยจับคนในครอบครัวนี้ไปได้เมื่อปี 2557 พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 1 ล้าน 2 แสนเม็ด จึงยึดเป็นของกลาง จึงส่งผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดี เชื่อว่ายาเสพติดทั้งหมดน่าจะลำเลียงจากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนในกรุงเทพมหานคร
และคดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย รถบรรทุ 3 คัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบมาว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ตอนในและในพื้นที่ภาคใต้ และทราบว่าในวันที่ 17 พ.ย. 2561 จะลักลอบขนกัญชาไปส่งให้ลูกค้า โดยใช้รถยนต์กระบะในการขนลำเลียงและคุ้มกัน จึงวางแผนจับกุมโดยวิธีวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ ระหว่างเฝ้าสังเกตการณ์ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน 1ฒห -6312กรุงเทพมหานคร ขับขี่ไปตามถนนสระบุรี-หล่มสัก มุ่งหน้า จว.สระบุรี และพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ๒ฒก-๗๒๐ กรุงเทพมหานคร วิ่งตามหลังโดยมีรถยนต์หมายเลขทะเบียน บม-6075 สกลนคร วิ่งนำไป เมื่อถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นกัญชา จำนวน 875กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะ โดยมีถุงแตงวางและถุงมันเทศทับข้างบนอยู่ จึงยึดไว้เป็นของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ว่าขณะนี้จะมีการปลดล็อคกัญชาเเต่ก็เพื่อการแพทย์ แต่การจับกุมครั้งนี้เป็นขบวนการลักลอบค้ายาเสพติด โดยกัญชาอัดแท่งรับมาจากประเทศเพื่อนบ้านมีราคากิโลกรัมละ 4 พันบาท แต่ถ้าไปถึงมาเลเซีย จะมีมูลค่าสูงถึง กก.ละ 2 หมื่นบาท ฉะนั้นหน้าที่การจับกุมยังต้องดำเนินต่อไป










