
ลุงอ้างญาติเสียหลอกจัดงานศพแล้วยืมเงินคนในวัดกลับมาอีกแล้ว เหยื่อรายล่าสุดมัคนายกวัดนครศรีธรรมราช สูญเงินหลักหมื่น ตำรวจเตือนวัดอื่นอย่าไว้ใจให้ขอหลักฐานไว้ก่อน
วันที่ 7 พ.ย. ร.ต.อ.ชนินทร์ เหล็มโส๊ะ รอง สวป.งานสืบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบที่เกิดพร้อมสอบปากคำผู้เสียหาย และตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัดศาลามีชัย ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังจากเมื่อเวลา 06.00 วันที่ 6 พ.ย.61 มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 55–60 ปี แต่งกายภูมิฐาน สวมเสื้อยืดคอปกสีดำ กางเกงขายาวสีดำ อ้างว่าตนเองและภรรยาเป็นอาจารย์สอนที่วิทยาลัยอาชีวะ มาติดต่อกับทางวัดว่าต้องการจะเหมาศาลาวัดเพื่อจัดงานศพให้แม่ยายช่วงเย็นวันเดียวกัน พร้อมกับขอเบอร์โทรศัพท์ของแม่ครัวและร้านจัดดอกไม้ เพื่อเตรียมการจัดสถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศลศพแม่ยาย

เจ้าอาวาสให้นายบุญสิน สังข์ทอง มัคนายก พาคนร้ายไปดูศาลาที่ตั้งงานศพ ก่อนที่คนร้ายจะออกอุบายขอแลกเงินจำนวน 500 บาท สุดท้ายเห็นว่ามัคนายกมีเงินหมื่นในกระเป๋า จึงออกอุบายขอยืมเงินจำนวน 1 หมื่นบาท อ้างจะนำไปจ่ายเป็นค่ากับข้าวเลี้ยงแขกให้กับแม่ครัวและหลบหนีไป
นายบุญสิน สังข์ทอง ผู้เสียหาย เล่าว่าขณะตนพาคนร้ายไปดูสถานที่จัดงานศพบริเวณศาลาโรงธรรม คนร้ายออกอุบายขอเบอร์โทรศัพท์แม่ครัวและเบอร์โทรร้านดอกไม้เพื่อจัดเตรียมงานศพ แล้วทำทีแกล้งโทรศัพท์ ก่อนขอแลกแบ่งย่อยจำนวน 500 บาท ระหว่างนั้นตนเปิดกระเป๋าสะพายเพื่อหาเงินแลกให้ จังหวะนั้นคนร้ายเห็นเงินจึงขอยืม 10,000 บาท อ้างว่าขอยืมแป๊บเดียวเพื่อนำไปจ่ายให้แม่ครัวเป็นค่าทำอาหารเลี้ยงแขกเย็นนี้ ตอนนั้นตนไม่เอะใจ จึงให้ไปกระทั่งผ่านไปนานเกือบ 1 ชั่วโมง คิดว่าคงถูกหลอกแล้วจึงไปแจ้งความกับตำรวจ

ด้าน ร.ต.อ.ชนินทร์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายรายนี้มีรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ในหลายจังหวัด เบื้องต้นพบว่าคนร้ายมีเพียงคนเดียว แต่ไม่ทราบว่ามีการใช้ยานพาหนะในการก่อเหตุหรือไม่ เพราะกล้องวงจรปิดของวัด บันทึกภาพขณะคนร้ายเดินเข้ามาจากหน้าประตูวัด จากนี้จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดของ เทศบาลและของ สภ.เมือง เพื่อดูเส้นทางที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุและเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามฝากเตือนวัดต่างๆ ให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น หากเป็นไปได้ถ้ามีคนแปลกหน้ามาติดต่อเรื่องต่างๆ กับวัด ควรจะมีการตรวจสอบบัตรประชาชน หรือเก็บสำเนาบัตรประชาชนไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวจากการรวบรวมข้อมูลของทีมข่าวเวิร์คพอยท์ พบตระเวนก่อเหตุมาแล้วหลายแห่ง โดยจะออกอุบายคล้ายๆ กัน คือ ไปติดต่อวัดเพื่อจัดงานศพหรือมาทำบุญเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือก่อน จากนั้นจะขอยืมเงินของคนในวัด แม่ครัว หรือแม่ค้าสลากกินแบ่งที่มาขายในวัด ซึ่งมักจะหลงเชื่อเนื่องจากเห็นว่ามาจัดงานจริง ได้ไปครั้งละ 2,000-10,000 บาท
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.776316519404295&type=1&l=5a702ce005









