
ตำรวจกองปราบตามรวบคนร้าย ก่อคดียิงทหารเสียชีวิตแล้วกบดานที่ย่าน อ.คลองหลวงมาปีกว่า เจอ จนท.ชุดจับกุมก่อนปะทะสุดท้ายไม่รอด หลังตามล่าตัวมา 1 ปีกว่า เร่งสอบสวนขยายผล หาผู้ร่วมก่อเหตุที่ยังหลบหนีต่อไป ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ กก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร์ สว.กก.4ฯ, ร.ต.อ. พร้อมพล นิตย์วิบูลย์, ร.ต.อ.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ รอง สว.ฯ, ด.ต.นิติธร ประชันกาญจนา ผบ.หมู่ กก.4 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายอำนาจ หรือเก่ง หยาดเพชร อายุ 43 ปี ชาว จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 1738/2560 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือ แต่บางส่วนหรือเข้าไปกระทำการใด อันเป็นการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่สองคนขึ้นไป ในเวลากลางคืนซ่องโจร พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุ”
พฤติการณ์การกระทำผิด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 19.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุของ สน. ว่าเกิดเหตุ นายอำนาจ หรือเก่ง หยาดเพชร ร่วมกับพวก รวม 5 คน ก่อเหตุใช้อาวุธมีด และอาวุธปืน ทำร้ายผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บ ภายในโรงน้ำแข็ง เลขที่ 176/489 หน้าทางเข้าหมู่บ้านรัตนาวลัย ซอยประชาอุทิศ 17 ถ.ประชาอุทิศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง จึงเดินทางตรวจที่เกิดเหตุ พบพลทหาร ธวัชชัย นรมาตย์ ถูกยิงนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา และสิบเอกคมศร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ถูกฟันที่มือด้านซ้าย นำตัวส่งโรงพยาบาล จนต่อมาพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานร้องขอหมายจับนายอำนาจ ต่อศาลอาญา
การเข้าจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำกับการ 4 กองปราบปราม ได้สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้เดินทางมาบริเวณหมู่บ้านพฤกษา 13 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว
จากนั้นเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เดินทางไปถึงหมู่บ้านพฤกษา 13 ได้พบนายอำนาจ ขึ้นรถยนต์และขับรถอยู่ภายในหมู่บ้านดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ติดตามผู้ต้องหาไปตาม ถ.โยธาธิการ-คูคต ไปจนถึงภายในวัดเกิดการอุดม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี บริเวณลานวัด ซึ่งไม่มีคนและทรัพย์สินอยู่ในบริเวณดังกล่าว แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถประกบและได้แสดงตัวพร้อมเรียกให้ผู้ต้องหาหยุดรถ แต่ผู้ต้องหาไม่หยุด และได้ขับรถหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงไปที่ล้อรถข้างซ้ายด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้หลบหนี ทำให้ล้อรถข้างซ้ายด้านหน้าและด้านหลังรั่ว แล้วติดตามผู้ต้องหาจนสามารถจับกุมตัวได้ ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา









