คืบหน้าเหตุคนร้ายบุกร้านน้ำชา จ.นราธิวาส ใช้ปืนขู่ 2 จนท. บังคับขึ้นรถ ก่อนจับมัดมือมัดเท้า ยิงหัวดับ โยนศพลงคูน้ำ แล้วเผารถทิ้งที่ตากใบ คาดหนีข้ามฝั่งเพื่อนบ้าน ตร.เผยปม อาจเป็นการแก้แค้นเหตุวิสามัญแกนนำ
วันที่ 27 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีคนร้ายแต่งชุดคล้ายทหารบุกร้านน้ำชา เลขที่ 30 ม.2 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส แล้วใช้อาวุธปืนขู่บังคับ ส.ต.ท.นเรศว์ เอียดทอง อายุ 31 ปี ผบ.หมู่ นปพ.ฉก.31 และ ส.ต.ท.รุสไวดี สาแม อายุ 30 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เจาะไอร้อง ที่นั่งร่วมดื่มน้ำชากับชาวบ้าน รวม 4 คน แล้วนำตัวขึ้นรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิซิ รุ่นไทตัล สีฟ้า 4 ประตู ทะเบียน กล 3584 สงขลา ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะของ ส.ต.ท.นเรศว์ ที่จอดข้างร้านขับหลบหนีไป เหตุเกิดในช่วงเวลา 19.30 น. ของคืนวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย นอนเสียชีวิตในคูน้ำทางเข้าศาลาที่พักริมทาง ม.2 ต.บูกิต ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 200 เมตร จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ศพเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย แต่งกายในชุดนอกเครื่องแบบ โดยมือทั้ง 2 ข้างถูกเชือกมัดไว้ และมีร่องรอยถูกกระสุนปืนของคนร้ายยิงเข้าที่บริเวณศีรษะและลำตัว ในลักษณะคนร้ายนำลงจากรถยนต์กระบะแล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิง ก่อนที่จะผลักร่างให้ตกไปในคูน้ำ แล้วขับรถหลบหนี โดยมีปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. จำนวน 3 ปลอก ของคนร้ายตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
ส่วนกรณี พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ตากใบ พบซากของรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิซิ ไทตัล 4 ประตูสีฟ้า ทะเบียน กล 3584 สงขลา ของ ส.ต.ท. นเรศว์ เอียดทอง ที่คนร้ายได้ปล้นแล้วจับกุม 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง ขับหลบหนี ถูกวางเพลิงบนถนนบ้านปะลุกา ม.3 ต.โฆษิต อ.ตากใบ ในช่วงคืนที่ผ่านมานั้น
จากการตรวจสอบความเสียหายของรถกระบะคันดังกล่าว พบว่า คนร้ายน่าจะดูดน้ำมันเชื้อเพลิงจากถัง แล้วนำมาราดในห้องโดยสารแล้วจุดไฟเผา ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอของคนร้ายได้ ต้องรอผลการตรวจสอบวิถีของปลอกกระสุนปืนที่ตรวจพบในจุดเกิดเหตุก่อน เพื่อขยายผลสู่กลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนอาวุธปืน เอ็ม 16 แบบเอ็ม 4 และอาวุธปืนพก รวม 3 กระบอก ของ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะแจกจ่ายให้กับเพื่อนสมาชิกที่ร่วมก่อเหตุนำหลบหนี
ด้าน พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้เปิดเผยหลังจากเดินทางไปร่วมตรวจสอบรถกระบะที่ถูกวางเพลิงว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุยืนยันว่า เป็นรถคันเดียวกับที่ก่อเหตุที่เจาะไอร้องเนื่องจากทะเบียนตรงกัน โดยคนร้ายได้ขับหลบหนีมาแล้วก็หลบกล้องวงจรปิดมา เพื่อที่จะมาทำลาย ก็คือ การเผาทำลาย แล้วคาดว่าคนร้ายได้ข้ามฝั่งหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งขณะนี้กำลังสืบสวนอยู่ และยังไม่อยากฟันธงว่าเป็นกลุ่มไหน แต่คิดว่าเป็นการตอบโต้ที่เจ้าหน้าที่วิสามัญแกนนำเสียชีวิต 2 ศพ บนเทือกเขาไอร์ลาฆอ ม.5 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ อาทิ เชือกที่ใช้มัดมือเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย รวมทั้งปลอกกระสุน 3 ปลอก เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับกลุ่มคนร้ายว่าเป็นคนร้ายกลุ่มใด
ส่วนกรณีศพ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ทางผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ ได้เดินทางมารับที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง โดยศพของ ส.ต.ท.นเรศว์ เอียดทอง จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดคูขุด อ.สทิงพระ จ.สงขลา ส่วนศพของ ส.ต.ท.รุสไวดี สาแม จะนำไปฝังที่กูโบร์ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ในช่วงเย็นของวันเดียวกันนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
