
ชาวไทยพุทธใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงทำพิธีทางศาสนาในวันอาสาฬหบูชา หากแต่หลายพื้นที่ต้องปรับช่วงเวลา เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 นับเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์แห่งพระพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนา หรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้เป็นครั้งแรกแก่เบญจวัคคีย์ทั้ง 5
ธรรมเทศนาที่ทรงแสดงครั้งแรกจึงได้ชื่อว่า ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม หรือพระสูตรแห่งการแผ่ขยายธรรมจักร กล่าวคือดินแดนแห่งธรรมนั่นเอง
โดยในการแสดงปฐมเทศนาครั้งแรกของพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดงหลักธรรมสำคัญ 2 ประการ คือ มัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง และอริยสัจ 4 แปลว่า ความจริงอันประเสริฐของอริยะ ซึ่งคือบุคคลที่ห่างไกลจากกิเลส ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป แน่นอนว่าย่อมไปวัดทำบุญตักบาตรกันในช่วงเช้า และเวียนเทียนกันในช่วงเย็นหรือค่ำ แต่สำหรับประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งยังมีผู้ก่อการร้ายก่อความไม่สงบอยู่เรื่อยๆ ประชาชนในบางพื้นที่จึงไม่ได้ออกไปเวียนเทียนกันในช่วงเย็นหรือค่ำ โดยมีเหตุผลเรื่อง “ความปลอดภัย” เป็นสำคัญ
ทว่า พวกเขามิได้ละเลยประเพณีเวียนเทียนของพระพุทธศาสนา เพื่อระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ หากแต่ส่วนใหญ่เลือกขยับช่วงเวลาขึ้นมา เป็นเวียนเทียนในช่วงกลางวันแทน มีเพียงบางวัดที่เวียนเทียนในช่วงเย็นหรือกลางคืน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ และต้องเป็นวัดที่อยู่ในหมู่บ้านที่มีความเข้มแข็งของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) มีการดูแลรักษาความปลอดภัยได้เป็นระบบ โดยการปรับเปลี่ยนการปฏิบัติธรรมให้เร็วขึ้นในลักษณะนี้ทำมาหลายปีแล้ว เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
จ.ยะลา

อย่างในวันนี้ (27 ก.ค. 61) เวลา 10.45 น. ที่ วัดเวฬุวัน (วัดสะเตง) อ.เมือง จ.ยะลา พุทธศาสนิกชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆ วัด และในเขตอำเภอเมืองยะลา ต่างทยอยเดินทางมาร่วมถวายเทียนพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำฝน และรับศีลฟังธรรมเทศนาจากพระราชปัญญามุณี เจ้าคณะจังหวัดยะลาและเจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน พร้อมทั้งร่วมประกอบพิธีเวียนเทียนเที่ยงวัน ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองอย่างเข้มงวด ทั้งภายในบริเวณวัดและนอกวัด

ส่วนวัดต่างๆ ในพื้นที่เขตอำเภอเมืองยะลาทั้ง 17 วัด ก็จัดพิธีเวียนเทียนกลางวันและช่วงเย็นเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ชาวไทยพุทธ ได้ร่วมกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์ เหมือนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

จ.นราธิวาส
เช่นเดียวกับที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 12.45 น. ที่ผ่านมา ที่วัดอุไรรัตนาราม ตั้งอยู่ ม.5 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ ซึ่งเป็น 1 ในจำนวน 74 วัดของทั้งจังหวัด ก็ได้มีการประกอบพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ในช่วงเวลากลางวันของทุกปีเช่นกัน โดยมีตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมประกอบพิธีเวียนเทียนกับชาวไทยพุทธที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 2 ชุมชนของ อ.บาเจาะ คือ ชุมชนตลาดบาเจาะและชุมชนน้ำตกปาโจ ที่ได้หอบลูกจูงหลานมาประกอบพิธีเวียนเทียน ประมาณ 30 คน เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามนี้เอาไว้ รวมทั้งเพื่อเป็นสิริมงคลของตนเองและครอบครัว

โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นเหมือนในทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อนจะมีการประกอบพิธีเวียนเทียนนั้น ในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ได้มีการประกอบพิธีทำบุญตักบาตร เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับประชาชน บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่กองกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งพระสงฆ์ที่มรณภาพจากผลพวงของสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ได้ไปสู่สุคติ ซึ่งกิจกรรมตลอดทั้งวันได้มีเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ให้การรักษาความปลอดภัยประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมอย่างเข้มงวด

จ.ปัตตานี
แต่สำหรับที่ จ.ปัตตานี ประชาชนส่วนใหญ่พิจารณาแล้วเห็นว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมานานกว่า 2 ปี ลดและเบาบางลง อีกทั้งมีความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายเจ้าหน้าที่ จึงได้กลับมาจัดพิธีเวียนเทียนในช่วงค่ำตามปกติ โดยเมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ที่สำนักสงฆ์ชะเมาสิริธรรม ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้นำกำลังพลของหน่วย และตำรวจฝ่ายปกครอง ที่นับถือศาสนาพุทธกว่า 100 นาย ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วและประจำตามจุดวัดต่างๆ ที่จะมีการจัดกิจกรรมเวียนเทียน เนื่องในวันอาสาฬหบูชาช่วงค่ำ โดยพาเจ้าหน้าที่มาเวียนเทียนในช่วงกลางวันกันก่อน

โดยปีนี้วัดประจำอำเภอต่างๆ ทั้ง 12 วัด ต่างแจ้งความจำนงขอจัดกิจกรรมทางศาสนา โดยเริ่มในเวลาช่วงค่ำ ซึ่งผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ก็ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ชาวบ้าน เน้นในพื้นที่เส้นทางเสี่ยง เพื่อป้องกันเหตุอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้


อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews









