ประเด็นคือ – จากเหตุการณ์ที่ 2 ตายายถูกวางยาพิษในแท็งก์น้ำ และนำไปดื่มจนเกือบเสียชีวิต ล่าสุด อาการของ 2 ตายาย ดีขึ้นแล้ว
จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (11 ก.พ. 61) ที่บ้านเลขที่ 87/3 หมู่ 9 ตำบลวิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร นายสุวรรณ บริคช อายุ 76 ปี และ นางธิดา บริคช อายุ 63 ปี เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนที่ลำคอและช่องท้อง หายใจติดชัด หลังดื่มน้ำจากก๊อกน้ำที่ต่อมาจากแท็งก์น้ำหลังบ้าน ต่อมาทั้งคู่ถูกนำตัวส่ง รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ แพทย์ต้องล้างท้องอย่างเร่งด่วน
ทางด้าน นางสวรรยา บริคช อายุ 35 ปี บุตรสาว เล่าว่า “ก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี มีพฤติกรรมชอบมาหยิบสิ่งของภายในบ้านไปโดยไม่บอก ได้นำเหล้าขาวมานั่งดื่มกินที่บ้าน แต่พ่อของตนเองไม่พอใจ เพราะหญิงสาวคนดังกล่าวชอบเอะอะโวยวายส่งเสียงดัง จึงได้ว่ากล่าวและไล่ออกจากบ้านไป นอกนั้นพ่อก็ไม่เคยมีเรื่องกับใคร”
https://www.youtube.com/watch?v=lb0AckWDiZ4
ล่าสุดวันนี้ (12 ก.พ. 61) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ อาคารหมอพร รพ.ชุมพรฯ อ.เมือง จ.ชุมพร นางธิดา บริคช อายุ 63 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า “ในขณะนี้อาการดีขึ้นมาก แต่ยังคงต้องให้น้ำเกลือ สามารถทานอาหารอ่อนๆ ได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดภายในร่างกายแล้ว”
“ในวันที่เกิดเหตุ หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ได้ไปเอาน้ำใส่ขันมาให้สามีดื่ม 1 ขัน และตนดื่มเองอีก 1 ขัน จนมีอาการผิดปกติ จึงได้ไปเรียกลูกสาวให้นำส่ง รพ.ชุมพร ส่วนตัวทราบดีว่าใครเป็นผู้ลงมือ เนื่องจากภายในบ้านจะแยกแท็งก์น้ำที่รองรับน้ำฝนสำหรับดื่มไว้ต่างหาก และแยกท่อประปาอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีเพียงผู้ที่บ้านใกล้ชิดเท่านั้นจะทราบว่า น้ำในแท็งก์ไหน ใช้ทำอะไร”
“ส่วนตัวขออโหสิกรรมให้กับผู้ที่มาทำร้าย ไม่อยากให้อาฆาตแค้นกันต่อไป ถึงแม้มีสาเหตุมาจากการดุด่าว่ากล่าวเล็กน้อย แต่เมื่อโกรธแค้นขนาดนี้ ก็ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน อย่าอาฆาตกันอีกเลย”
ทางด้าน พ.ต.อ.คำสิงห์ ศรียาภัย กล่าวว่า “ได้ส่งน้ำไปตรวจสอบว่ามีพิษชนิดใดบ้าง ที่ทำอันตรายต่อร่างกาย ถ้าเป็นสารพิษที่ทำให้เสียชีวิตก็เป็นการพยายามฆ่า แต่เป็นสารพิษที่ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ก็จะเป็นการทำร้ายร่างกาย ในขณะนี้ได้ส่งตำรวจสายสืบเข้าไปประกบผู้ต้องสงสัย และหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
