
ประเด็นคือ- ตำรวจเรียกสอบ 12 เจ้าหน้าที่ DSI อีก 2 นัด ในวันที่ 12 และ 14 ธ.ค. นี้ หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนรื้อฟื้นคดี “ครูจอมทรัพย์” เข้าข่ายสนับสนุนรื้อคดี ผิด ม.157 อั้งยี่ซ่องโจร คาดสัปดาห์หน้าชัดมีบุคคลใดบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (10 ธ.ค. 60) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับขบวนการสร้างหลักฐานเท็จของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือครูจอมทรัพย์ ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และจากหนังสือรายงานผลการจับเท็จของบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ที่ดีเอสไอรายงานต่อกระทรวงยุติธรรมไปเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 60 ชี้ให้เห็นว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรื้อคดีโดยมิชอบอย่างแน่นอน
เนื่องจากรายงานการจับเท็จระบุว่า นายสับ วาปี และนายสุริยา นวนเจริญ ได้รับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ DSI ที่ควบคุมเครื่องจับเท็จว่า นายสุริยา และครูจอมทรัพย์ ได้สืบค้นหารถที่มีป้ายทะเบียนใกล้เคียงกับทะเบียนรถของครูจอมทรัพย์ จนไปพบกับนายสับ และได้ว่าจ้างให้นายสับรับผิดแทน เป็นเงิน 4 แสนบาท โดยจะมอบเงินให้หลังจากที่ศาลรับฟ้องแล้ว และมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ แต่สุดท้ายนายสับกลัวว่าจะถูกคุมขังจริง จึงรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ DSI ว่าถูกจ้างมา

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นายสับ และนายสุริยา รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่แล้ว เจ้าหน้าที่ DSI กลับมีความพยายามที่จะผลักดันสำนวนให้ไปสู่การรื้อฟื้นคดีในชั้นศาล เข้าข่ายมีส่วนส่งเสริมสนับสนุน โดยขณะนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่ DSI เข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการแล้ว 12 นาย โดยหลังจากสอบปากคําเจ้าหน้าที่ครบ 14 นายแล้ว ก็จะเร่งสรุปผลว่ามีเจ้าหน้าที่นายใดเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง และชี้ข่ายกระทำความผิดให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า เพื่อที่จะดำเนินคดีข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และอาจถูกแจ้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรร่วมด้วย
ส่วนประชาชนทั่วไปที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะนี้มีการแจ้งข้อหาไปแล้ว 9 คน เหลืออีก 2 คน คือ นายธณัช สุขตลอดปี ทนายความ และนางวาสนา เพชรทอง ผู้รับมอบอำนาจ ที่ตำรวจออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 12 และ 14 ธ.ค. นี้ ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนครพนม









