
ศาลอาญาตัดสินจำคุกรวม 13,275 ปี ชดใช้กว่า 500 ล้านบาท “ภูดิศ กิตติธราดิลก” หนุ่มหลอกแชร์ลูกโซ่จัดคอร์สสัมมนาเสียหายกว่า 5 พันล้าน แต่ลงโทษจริงจำคุกไม่เกิน 20 ปี
วันนี้ (29 ธ.ค. 60) เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กลุ่มผู้เสียหายถูกหลอกร่วมลงทุนแชร์ลูกโซ่จัดคอร์สสัมมนา พร้อมทนายความ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้เดินทางยังยังศาลอาญาเพื่อฟังคำพิพากษาและเป็นโจทก์ร่วม ในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายภูดิศ กิตติธราดิลก อายุ 35 ปี ในฐานะนิติบุคคล บริษัท เดอะซีสเต็ม ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ จำกัด กับพวก รวม 3 คน ซึ่งเป็นจำเลยในคดีแชร์ลูกโซ่จัดคอร์สสัมมนา ข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน มีผู้เสียหายทั้งหมด 2,653 ราย จากสมาชิกทั้งหมดประมาณ 40,000 ราย มูลค่าความเสียหายร่วม 5,000 ล้านบาท

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 1 ส.ค. 58 – 1 ก.ย. 59 นายภูดิศพร้อมพวกเชิญชวนประชาชนร่วมลงทุนในธุรกิจคอร์สสัมมนาหลายประเภท เช่น คอร์สสัมมนาลงทุนธุรกิจเสริมความงาม ธุรกิจเต็นท์รถ ธุรกิจส่งออกไปแอฟริกา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ก่อนจำเลยทั้งสามคนร่วมกันความผิดฐานฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341, 343 พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 11, 12, 15 กว่า 3,565,299.02 บาท

แฟ้มภาพ: ร้องดีเอสไอ! แชร์ลูกโซ่หลอกซื้อคอร์สสัมมนาและลงทุนเหมืองทองคำขาว (16 พ.ค. 60)
ศาลพิเคราะห์เห็นว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 (1) พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 (1), มาตรา 12, มาตรา 15 (1) พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 (1) (2), มาตรา 60, มาตรา 61 (1) ประกอบกับมาตรา 83 การทำผิดของจำเลยผิดหลายกรรมต่างกันไป ให้ลงโทษทุกกรรมเรียงกระทงความผิดไป
ความคิดฐานฉ้อโกง และความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำเลยความผิดฐานกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีโทษหนักสุด ปรับจำเลยที่ 1 และ 2 กระทงละ 500,000 บาท รวม 2,653 กระทง จำนวนเงินบริษัทละ 1,356,500,00 บาท สั่งจำคุกจำเลยที่ 3 กระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 13,265 ปี
ส่วนความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ปรับจำเลยที่ 1 และ 2 บริษัทละ 1,000,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 3 มีโทษจำคุก 10 ปี รวมค่าปรับเงินบริษัทของจำเลยที่ 1 และ 2 เป็นบริษัทละ 1,327,500,000 บาท และจำคุกนายภูดิศ จำเลยที่ 3 รวมเป็น 13,275 ปี
นายสามารถ เปิดเผยภายหลังฟังคำพิพากษาว่า จำเลยให้การรับสารภาพ จึงไม่ต้องมีการนัดสืบพยาน ศาลจึงมีคำพิพากษาในวันนี้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน พิพากษาจำคุกจำเลยทั้งสาม 13,275 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ศาลลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 6,637 ปี 6 เดือน และปรับจำเลยที่ 1 และ 2 เป็นเงินจำนวน 663,750,000 บาท และให้จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันชดใช้เงินคืนให้กับผู้เสียหาย จำนวน 574,188,781.22 พร้อมดอกเบี้ย 7.5 % ต่อปี แต่ลงโทษจริงได้ไม่เกิน 20 ปี
นายสามารถกล่าวต่อว่า การติดคุกเพียง 20 ปี ผู้เสียหายรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม จึงควรแก้กฎหมายคดีแชร์ลูกโซ่ จากจำคุกความผิดกระทงละ 3 – 5 ปี เป็นกระทงละ 7 – 10 ปี ซึ่งจะทำให้ผู้กระทำผิดถูกจำคุกอย่างน้อย 50 ปี









