ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องกลุ่มอดีตตำรวจ ฆ่าแขวนคอหนุ่มอายุ 17 ปีในกระท่อมกลางนา จ.ร้อยเอ็ด เมื่อปี 2547 หลังยืดเยื้อมานานกว่า 14 ปี
วันที่ 11 ต.ค. 61 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีฆ่าผู้อื่น ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 โจทก์ และนายกิตติศัพท์ ถิตย์บุญครอง บิดาผู้ตาย ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง ด.ต.อังคาร คำมูลนา , ด.ต.สุดธินันท์ โนนทิง , ด.ต.พรรณศิลป์ อุปนันท์ , พ.ต.ท.สำเภา อินดี , พ.ต.อ.มนตรี ศรีบุญลือ และ พ.ต.ท.สุมิตร นันสถิตย์ ทั้งหมดเป็นอดีตตำรวจสังกัด สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในขณะเกิดเหตุ เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย และเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำการในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องรับโทษ
จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 22-23 ก.ค. 47 จำเลยที่ 1-3 และจำเลยที่ 6 ซึ่งเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกันฆ่า นายเกียรติศักดิ์ ถิตย์บุญครอง อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาคดีขโมยรถจักรยานยนต์ ขณะนำตัวออกจาก สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ด้วยการบีบรัดคอจนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปอำพรางคดีด้วยการแขวนคอ ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาศาลมีการอ่านคำพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 6 คนไปแล้ว แต่จำเลยที่ 5 ยังคงหลบหนี
ล่าสุดวันนี้ ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน ว่าจำเลยฆ่าผู้ตาย มีเพียงพยานปากเดียว ที่ให้การว่าเห็นจำเลยที่ 1 ถึง 3 นำผู้ตายออกไปจากห้องสอบสวน ดังนั้นการรับฟังพยานต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง คำให้การของพยาน เป็นพิรุธไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือว่า จำเลยที่ 1 ถึง 3 ทำร้ายร่างกายผู้ตาย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยทั้งหมด พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 6 คน ทำให้ญาติจำเลยต่างส่งเสียงดีใจและขอบคุณศาล ขณะที่จำเลยก้มลงกราบขอบคุณศาลด้วยเช่นกัน
ด้านนางพิกุล พรหมจันทร์ อาของผู้เสียชีวิต และ นายรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความ หลังจากจบการอ่านคำพิพากษา ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในวันนี้ยอมรับคำพิพากษา แต่ไม่เห็นพ้องด้วย พร้อมโชว์ข้อความคำให้การของเพื่อนผู้ตาย ที่เคยระบุไว้ว่า ผู้ตายเป็นสายให้กับตำรวจ และเคยเล่าให้ฟังว่า ผู้ตายรู้เรื่องผู้ค้ายาเสพติดมากเกินไป กลัวว่าจะถูกเจ้าพนักงานจับไปฆ่าแขวนคอ
ทั้งนี้ทางญาติผู้ตายได้ฝากถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจจะต้องสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีเพราะคนร้ายยังลอยนวล นอกจากนี้ยังพบว่า ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ช่วงปี 2646 – 2547 มีเหยื่อถูกฆ่าแต่ไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ถึง 20 ราย ในจำนวนนั้นมี 3 ราย ที่ถูกฆ่าแขวนคอเหมือนหลานชาย
