
ชาย 2 คน ตั้งวงกินเหล้าในวัดเมาทะเลาะกัน คว้ามีดอีโต้สับคอดับ ก่อนเอาศพยัดโอ่งน้ำหลังกุฏิพระสงฆ์ หวังอำพรางคดี ตำรวจรวบฆาตกรโหดได้ทันควัน หลังพบนั่งเหม่อลอยอยู่บริเวณใกล้เคียง จับตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2561 เวลา 19.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ แก้วสมนึก ผกก.สภ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุฆ่ากันตายที่ สำนักสงฆ์บ้านโคน ต.ศรีแก้ว อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ จึงได้สั่งการให้ ร.ต.อ.พรพิทักษ์ มุสะกะ พนักงานสอบสวน สภ.ศรีรัตนะ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ศรีรัตนะ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน จุดอำเภอพยุห์ ไปตรวจสอบ
ซึ่งเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า ภายในโอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังของกุฏิพระสงฆ์ เจ้าหน้าที่ได้พบศพของชายคนหนึ่ง ทราบชื่อคือนายสมบูรณ์ ภาษี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 บ้านโคน ต.ศรีแก้ว อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ สภาพศพมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณลำคอด้านซ้าย 2 แผล และที่บริเวณแขนขวา 1 แผล และใกล้ที่เกิดเหตุพบชายต้องสงสัยอีกราย คือ นายเกษม ตันกาบ อายุ 27 ปี มีสภาพอาการนั่งเหม่อลอยคล้ายกับไม่ได้นอนมาทั้งคืน จึงได้ควบคุมตัวไว้ทำการสอบสวน ซึ่งนายเกษมได้ให้การรับสารภาพกับพนักงานสอบสวนว่า เป็นผู้ที่ใช้มีดอีโต้ฟันคอนายสมบูรณ์จนเสียชีวิตและนำศพไปยัดใส่ในโอ่งน้ำไว้เพื่อเป็นการอำพราง เจ้าหน้าที่ได้พบมีดอีโต้และมีดปลายแหลมตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายเกษม ให้การว่า สิ่งที่ทำให้ต้นมีอาการป่วยทางจิต เนื่องจากถูกศัตรูใช้ไสยศาสตร์เล่นงานเพื่อต้องการฆ่าตนให้ตาย จึงได้เดินทางมาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ เพื่อขอให้หลวงตาทองสา ชนินโท อายุ 86 ปี ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีวิชาอาคมช่วยแก้คุณไสยให้และเมื่อเวลาประมาณ 01.15 น. ของคืนวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนกับนายสมบูรณ์ ได้นั่งดื่มเหล้ากันเมาและได้มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง โดยนายสมบูรณ์พยายามจะใช้มีดปลายแหลมแทงตน ดังนั้น ตนจึงคว้ามีดอีโต้ที่วางอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุฟันเข้าที่คอของนายสมบูรณ์ 2 ครั้งและที่แขน 1 ครั้ง ทำให้นายสมบูรณ์เสียชีวิตคาที่ จากนั้นได้นำศพของนายสมบูรณ์ไปซ่อนไว้ในโอ่งน้ำหลังกุฏิพระสงฆ์ จนกระทั่งมีคนมาพบรอยเลือดจำนวนมากและพบศพของนายสมบูรณ์อยู่ในโอ่งน้ำ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตร.ทราบ
ผกก.สภ.ศรีรัตนะ เปิดเผยว่า จากการที่ได้นำตัวนายเกษมไปตรวจปัสสาวะพบว่า มีสารแอมเฟตามีนในร่างกาย จึงได้ตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาซ่อนเร้นอำพรางศพ และเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จึงควบคุมตัวนายเกษมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณภาพจาก หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ จุดอำเภอพยุห์









