
รองโจ๊กจี้คดี นทท.สาวชาวจีนตกน้ำตกโตนงาช้างเสียชีวิตมีเงื่อนงำ พบพิรุธ จนท.เชิญตัวเพื่อนชาวจีนสอบเครียด หลังพบไปเที่ยวน้ำตกด้วยกัน แต่ยังปฏิเสธไม่รู้จักผู้ตาย คาดเป็นการฆาตกรรมอำพราง
วันที่ 24 ก.ย. 61 ความคืบหน้ากรณีพบ น.ส. LEI TIAN อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน เสียชีวิตที่บริเวณแอ่งน้ำชั้น 1 ของน้ำตกโตนงาช้าง ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า มาจากอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่าง ทั้งจากกระเป๋าเครื่องใช้ส่วนตัวที่ถูกนำมาทิ้งในถังขยะ และโทรศัพท์มือถือที่ถูกทิ้งในน้ำ แต่ถูกถอดซิมการ์ดออกไป
โดยเมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) ทาง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้สั่งตั้งทีมสืบสวนขึ้นมาคลี่คลายคดีนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากพบปมต้องสงสัยหลายอย่าง ที่บ่งชี้ว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง และในวันนี้ทางตำรวจท่องเที่ยวหาดใหญ่กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้เชิญตัวชายชาวจีน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ของ น.ส. LEI TIAN มาทำการสอบสวน แต่ยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับผู้ตาย และตำรวจยังได้ยึดรถเก๋งฮอนด้าซิตี้สีขาว หมายเลขทะเบียน WB 6579 G ที่ขับไปเที่ยวน้ำตกในวันเกิดเหตุมาตรวจสอบ

จากการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันทำงานด้านซอฟแวร์ อยู่ที่เดียวกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย ฝ่ายหญิงเดินทางมาโดยเครื่องบิน ส่วนฝ่ายชายเดินทางมากับเพื่อนด้วยรถเก๋งทางด่านพรมแดนสะเดา
โดยในวันเกิดเหตุ เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 19 กันยายน ทั้งคู่ได้เดินทางไปเที่ยวที่น้ำตกโตนงาช้าง โดยชายคนนี้ขับรถเก๋งไปพร้อมกับเพื่อน ส่วน น.ส. LEI TIAN ได้เหมารถแท็กซี่ขับตามไปทีหลัง
จากการสอบถามคนขับแท๊กซี่บอกว่า ระหว่างที่อยู่ในรถ ผู้ตายได้โทรศัพท์ไปคุยกับใครบางคน และเมื่อไปถึงน้ำตกก็ชี้ไปยังรถเก๋ง และชายคนหนึ่ง ซึ่งเหมือนกับมีการนัดเจอกันไว้ก่อนแล้ว และบอกให้รถแท็กซี่กลับไปไม่ต้องรอ และปรากฏว่าในช่วงเย็น รถเก๋งคันนี้ก็เป็นรถคันสุดท้ายที่ออกจากน้ำตก กระทั่งมาพบร่าง น.ส. LEI TIAN เสียชีวิตอยู่บริเวณชั้น 1 ในวันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา

ส่วนชายคนดังกล่าว หลังกลับจากน้ำตกได้เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมที่พักใน อ.หาดใหญ่ และไปนอนที่ตัวเมืองสงขลา และเดินทางต่อไปยัง จ.กระบี่ 1 คืน ก่อนที่ตำรวจท่องเที่ยวจะไปเชิญตัวมาสอบสวนแต่ยังคงให้การปฏิเสธไม่รู้จักผู้ตาย และไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิต แต่ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุไปเที่ยวน้ำตกจริง จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ของชายคนนี้ พบว่าได้ถูกล้างข้อมูลไปหมดแล้ว ซึ่งสวนทางกับแนวทางการสอบสวนที่พบว่า ทั้ง 2 คนมีเหตุเชื่อมโยงกัน
สำหรับคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดำเนินคดีใดๆ กับชายชาวจีนคนนี้ได้ เพราะยังไม่มีหลักฐาน แม้ผลการสอบสวนจะพบพิรุธหลายอย่าง โดยขณะนี้ยังคงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานโดยเฉพาะผลการตรวจชันสูตรศพของแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลหาดใหญ่ ว่าการเสียชีวิตมาจากอุบัติเหตุ หรือถูกฆาตกรรม ซึ่งผลยังไม่ออกมา รวมทั้งเจ้าหน้าที่จะทำการกู้ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของทั้ง 2 คน เพื่อใช้เป็นหลักฐานมัดตัว เพราะคาดว่าคดีน่าจะเป็นการวางแผนลวงไปฆ่า ไม่ใช่การจมน้ำ










