หนุ่มกำแพงเพชรปาดคอเมียดับ ก่อนอุ้มลูกวัย 7 ขวบวิ่งให้รถชน

หนุ่มกำแพงเพชรปาดคอเมียดับ ก่อนอุ้มลูกวัย 7 ขวบวิ่งให้รถชน

อาชญากรรม

ผัวคลั่ง หลังเมียขอเลิก ก่อเหตุใช้มีดปาดคอเมียดับ ก่อนอุ้มลูกเลี้ยงวัย 7 ขวบ วิ่งให้รถชน ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่

วันที่ 23 เม.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(22 เม.ย. 62) ร.ต.อ.เสกสรร จรรยามั่น รองสว.สส.สภ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกรถชนที่ริมถนนสายกำแพงเพชร-ท่ามะเขือ ต.คณฑี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร แต่ต่อมาได้รับแจ้งอีกว่าคนที่ถูกรถชน แทงภรรยาตัวเองตาย จึงเดินทางไปตรวจดูที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ในที่เกิดเหตุ เป็นห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในต.คณฑี พบศพนางพรพิลัย อายุ 35 ปี เสียชีวิตอยู่บนที่นอน สภาพศพถูกแทงด้วยมีดเข้าที่ชายโครงซ้าย 3 แผล แขนซ้าย 1 แผล ที่คอมีรอยปาดลึกถึงหลอดลมขาด ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุเป็นมีดปอกผลไม้เปื้อนเลือดถูกทิ้งอยู่นอกห้อง

โดยผู้ก่อเหตุคือ นายพงศกร อายุ 34 ปี เป็นสามี ทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ มีอาการบาดเจ็บตามร่างกายมีบาดแผลถลอกหลายแห่ง สาเหตุเพราะถูกรถชน หน่วยกู้ภัยต้องปฐมพยาบาลทำแผลให้ โดยใช้กุญแจมือล็อกติดไว้กับเสาเพื่อป้องกันการหลบหนี ส่วนเด็กอีกคนที่ได้รับบาดเจ็บ เด็กหญิงอายุ 7 ขวบ เป็นลูกสาว ถูกนำส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชร เนื่องจากได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย ล่าสุดอาการปลอดภัย

นอกจากนี้ ที่ริมถนนใกล้ที่เกิดเหตุยังมี รถกระบะ 4 ประตู ได้รับความเสียหายที่ฝากระโปรงหน้ารถ และหม้อน้ำแตก จอดอยู่ทราบชื่อคนขับ คือ นายจรินทร์ อายุ 48 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่

ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นทั้งคู่เดินเข้าไปในบ้าน จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงผู้หญิงขอความช่วยเหลือ จู่ๆนายพงศกรก็อุ้มลูกเลี้ยงวัย 7 ขวบ วิ่งออกมาจากบ้านตรงไปที่ถนนจนถูกรถกระบะคันดังกล่าวชนจนกระเด็น ส่วนตนวิ่งเข้าไปดูในห้องพบว่าฝ่ายหญิงนอนจมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว

ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ ทราบว่า นายพงศกรและนางพรพิลัย(ผู้ตาย)มีปัญหาระหองระแหงกัน มาวันนี้นางพรพิลัยได้อุ้มลูกเข้าไปเคลียร์ปัญหา เพื่อขอเลิกรา  กับนายพงศกรกันในห้องพักตามลำพัง แต่คาดว่าเคลียร์ไม่ลงตัว นายพงศกรจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ขณะที่แม่ของนายพงศกร ให้การว่า ลูกชายของตนเองนั้นมีอาการทางประสาทเนื่องจากว่าเคยได้รับความกระทบกระเทือน จากการถูกทำร้าย โดยเธอไม่รู้ว่า ลูกชายนั้นได้กินยาหรือเปล่า แต่จากการตรวจสอบภายในห้องพักที่เกิดเหตุ พบเพียงยาสามัญประจำบ้านเท่านั้น ไม่พบยาที่เกี่ยวกับอาการทางประสาทแต่อย่างใด

หลังจากตรวจที่เกิดเหตุเสร็จแล้ว ทางตำรวจได้ให้อาสาสมัครกู้ภัย นำร่างของผู้เสียชีวิตส่งให้แพทย์ตรวจพิสูจน์อีกครั้ง และจะทำการสอบสวนสามีรายนี้อย่างละเอียดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง