หนุ่มวัย 52 ปี ขว้างก้อนหินไล่หมา โดนญาติด่า เกิดความโมโห ใช้ปืนยิงรัวใส่ญาติ 3 นัด ได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.จิตตพล วงษ์วัน ผกก.สภ.เขลางค์นคร พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิภพ ขัติฤกษ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.สุริยะฏิษ สุริยะธง สว.สส. และ พ.ต.ต.ประดิษฐ์ ถิ่นสอน สว.(สอบสวน) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เขลางค์นคร ได้นำตัวผู้ต้องหา ทราบชื่อคือ นายวรวุฒิ วุฒิเดช อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 8 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเลขที่ 200 ซอย 6 หมู่ 2 บ้านเหล่าบุญเกิด ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง
หลังจากเมื่อเวลา 16.00 น. ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นางสมบูรณ์ เวียงไชย อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณท้องจำนวน 3 แผล ก่อนจะเดินออกไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ปากซอยให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปางมาปฐมพยาบาลและรับตัวไปรักษาที่ รพ.ลำปาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พบว่าพบมีหยดเลือดตกเป็นทางยาวตามพื้นถนนโดยเบื้องต้นทราบว่าผู้บาดเจ็บยังคงรู้สึกตัวดี ขณะนี้อาการบาดเจ็บพ้นขีดอันตรายแล้ว
จากการสอบสวน นายวรวุฒิ ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุยิง นางสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเครือญาติกันภายในบริเวณบ้านดังกล่าว ก่อนหน้านี้ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์มาส่งลูกสาวตนเองที่บ้าน ที่ตั้งอยู่ด้านหลังบ้านของนางสมบูรณ์ฯโดยเมื่อมาถึงบ้านก็ได้ไล่สุนัขของนางสมบูรณ์ที่เลี้ยงไว้ เพราะสุนัขตัวดังกล่าวมีเห็บและหมัด
โดยได้ใช้ก้อนหินขว้างปาใส่สุนัขแต่ก็ไม่โดน สุนัขก็ได้วิ่งหนีไปหานางสมบูรณ์ที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว จากนั้นนางสมบูรณ์ก็ไม่พอใจถือมีดเดินเข้ามาหาตน และพูดด่าทอต่อว่าให้ตนเองพูดท้าทายว่า “จะตีสุนัขทำไม ทำไมไม่มาฆ่ากูนี่ ยิงกูนี่” จึงทำให้ตนเองโมโหบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนสั้นออโต้ขนาด .32 ยิงใส่นางสมบูรณ์จำนวน 2 นัด ก่อนที่นางสมบูรณ์จะล้มลงและตั้งสติลุกขึ้นเดินออกไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ด้วยความตกใจตนเองก็ได้ขี่รถจักรยายนต์หลบหนีออกไปจากบ้าน ก่อนตัดสินใจนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
อย่างไรก็ตามทราบว่านายวรวุฒิยังเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้านของ สภ.เขลางค์นคร และที่ผ่านมาก็เคยมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันกับนางสมบูรณ์อยู่บ่อยครั้งในเรื่องสุนัข ถึงกับต้องมีการลงบันทึกประจำวันร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะได้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
