หนุ่มรับเหมาก่อสร้าง นั่งกินเหล้ากับเพื่อนบ้านยันสว่าง ในงานบวช ก่อนมีปากเสียงจนเกิดการชกต่อยกัน สุดท้ายเพื่อนบ้านสู้ไม่ไหว ชักปืนจ่อยิง 2 นัดซ้อน ดับคาที่
วันที่ 23 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 05.00 น. ร.ต.อ.จรินทร์ หลีเอบ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันตายที่บริเวณงานบวชนาค หน้าบ้านเลขที่ 6/2 หมู่ 3 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งแล้วจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และนำกำลังตำรวจสายตรวจและตำรวจชุดสืบสวน พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยป่อเต็กตึ๊งรุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบเต็นท์งานบวชนาคหน้าบ้านดังกล่าว โดยภายในเต้นท์พบศพผู้เสียชีวิตชื่อ นายวิรัตน์ จันทร์ภักดี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 2 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช สภาพนอนหงายเสียชีวิตบริเวณพื้นดินใกล้กับโต๊ะอาหาร ตรวจสอบบนโต๊ะอาหารมีกับข้าว ขวดโซดา จำนวนหลายขวด และขวดเหล้ายี่ห้อหนึ่ง จำนวน 1 ขวด วางอยู่เต็มโต๊ะอาหาร โดยจากการชันสูตรพลิกศพ พบมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 เข้าบริเวณชายโครงซ้าย จำนวน 2 แผล กระสุนฝังใน
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นายวิรัตน์ ผู้ตาย มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา นายวิรัตน์ ผู้ตาย ขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านพักในหมู่บ้าน เดินทางมาร่วมงานบวชนาคของญาติที่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายจรวย จันพลโท อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน ได้จัดงานบวชนาคให้กับหลานชาย ภายในงานมีญาติๆ และเพื่อนบ้านในหมู่บ้านและต่างหมู่บ้าน เดินทางมาร่วมงานบวชนาคเป็นจำนวนมาก
โดยขณะเกิดเหตุ นายวิรัตน์ ผู้ตาย นั่งรับประทานอาหารและดื่มเหล้าที่โต๊ะดังกล่าว กับเพื่อนบ้านคนหนึ่ง ตั้งแต่ช่วงค่ำ จนกระทั่งช่วงดึก แขกภายในงานได้ทยอยกลับหมดแล้ว เหลือเพียงโต๊ะของ นายวิรัตน์ และเพื่อน ยังนั่งดื่มเหล้าและคุยกันต่อ จนเกือบเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น นายวิรัตน์ และเพื่อนคนดังกล่าวมีอาการเมาทั้งคู่ และเกิดพูดจาขัดหูกัน มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนชกต่อยกัน แต่เพื่อนคนดังกล่าวสู้ไม่ได้ จึงชักอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ออกมาจ่อยิง นายวิรัตน์ จำนวน 2 นัดซ้อน กระสุนเข้าชายโครงซ้ายทั้ง 2 นัด เสียชีวิตทันที หลังจากนั้น เพื่อนชายที่ก่อเหตุยิง ได้วิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีหายไป
โดยหลังชันสูตรพลิกศพเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้กับญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จะได้ออกทำการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
