รวบลูก ร.ต.ต. หลอกเช่ารถเบ็นซ์ก่อนเชิดขายเต็นซ์มือสอง

รวบลูก ร.ต.ต. หลอกเช่ารถเบ็นซ์ก่อนเชิดขายเต็นซ์มือสอง

ตำรวจกองปราบ จับกุม “ลูกตำรวจพะเยา” หลอกเช่ารถหรู นำไปจำนำกับเต๊นท์รถในราคาที่สูงกว่าค่าเช่าแล้วชิงหนีเจ้าของรถ ยังพบมีหมายจับคดีฉ้อโกง-ยักยอกทรัพย์ติดตัว

วันที่ 1 พ.ย. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาราชการแทน ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยการจับกุม นายณัฐวุฒิ เขียวงาม อายุ 30 ปี ชาว จ.พะเยา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันลักทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปและรับของโจรเพื่อค้ากำไร และพบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี คดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และมีหมายจับของ ศาลจังหวัดเทิง จ.เชียงราย คดียักยอกทรัพย์

ตำรวจกองปราบ สามารถจับตัวนายณัฐวุฒิได้ที่บริเวณร้านอาหารอิ่มอุ่น ถนนพหลโยธิน ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา พร้อมตรวจยึดเสื้อกั๊กตำรวจ ติดสัญลักษณ์ตรากองปราบ กุญแจมือ และป้ายแขวนคอด้านหน้าระบุข้อความว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ภายในรถยนต์ขณะจับกุม

ก่อนหน้านี้ นายณัฐวุฒิ ร่วมกับพวกอีก 3 คน เช่ารถยี่ห้อ เบนซ์ เอสแอลเค (Mercedes-Benz SLK-Class) ราคา 2,500,000 ล้านบาท จากบริษัทไพร์ม คาร์ เรนทอล จำกัด ในราคาค่าเช่า 110,000 บาท แล้วนำไปจำนำกับเต็นท์รถมือสองย่านพระราม 9 ในราคา 500,000 บาท

ก่อนที่ บริษัทไพร์มฯ ตรวจสอบจีพีเอส พบว่า รถคันที่นายณัฐวุฒิกับพวกเช่าไปไม่ได้เดินทางไปต่างจังหวัด จึงทวงถามไปหลายครั้ง นายณัฐวุฒิ จึงยอมรับว่า ได้นำรถเบนซ์คันที่เช่ามาไปจำนำไว้กับเต็นท์ขายรถมือสองย่านพระราม 9 บริษัทไพร์มฯ ในฐานะผู้เสียหายจึงไปแจ้งความดำเนินคดี นายณัฐวุฒิกับพวกไว้ที่สน.สุทธิสาร เวลาต่อมา นายณัฐวุฒิกับพวกถูกตำรวจจับกุม และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากการยื่นของประกันตัวในชั้นศาล จากนั้นได้หลบหนีคดีกระทั่งศาลอาญาออกหมายจับ ก่อนที่ศาลจะให้ประกันตัวแล้วหลบหนีไป กระทั่งศาลอาญาจึงออกหมายจับ

ตรวจสอบประวัติ พบว่า นายณัฐวุฒิ เป็นลูกตำรวจยศ “ร.ต.ต.” ที่จ.พะเยา โดยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว 4 ครั้ง พฤติการณ์ของ นายณัฐวุฒิจะขับรถยนต์หรู แต่งตัวดี รวมทั้งนำเสื้อกั๊กของตำรวจกองปราบ กุญแจมือและป้ายแขวนคอด้านหน้าระบุ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” มาแขวนไว้ในรถ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและตบตาเจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจต่างๆ

จากการสอบสวน นายณัฐวุฒิ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ได้ตั้งใจนำเสื้อและตราตำรวจมาแอบอ้าง เพียงแต่ซื้อมาเพราะความชอบส่วนตัวเท่านั้น แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อและได้นำตัวส่งศาลอาญาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง