
ตำรวจเตรียมควบคุมตัวชาวเมียนมา มือยิงหมีขอไปขออำนาจศาลกาญจนบุรีฝากขัง เจ้าตัวซัดทอดถูก อส. 2 คน อ้างเป็นตำรวจบังคับให้ไปล่าสัตว์ป่า ใกล้แคมป์ปลัดออฟโรด เร่งล่าอีก 2 คนทำครัวหลบหนีหมายจับ
วันที่ 11 ต.ค. ตำรวจกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี คุมตัว นายตาต้า ชาวเมียน ผู้ดูแลสำนักสงฆ์เต่าดำ (ถูกซัดทอดว่าเป็นมือยิงหมีขอ) นายสกานต์ แก๋งหลวง (ถูกซัดทอดว่า เป็นคนสั่งการให้ยิงหมีขอ) และ นายอนุสรณ์ เรือนงาม หรือ อส.ออย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอด่านมะขามเตี้ย (เจ้าของปืนที่ใช้ยิงหมีขอ) ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ และนั่งรถยนต์ออฟโรด เดินทางเข้าไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายในป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อยและภายในอุทยานแห่งชาติไทรโยค
จุดแรก คือ จุดที่มีการยิงอีเห็น ภายในสำนักสงฆ์เต่าดำ ห่างจากจุดที่ นายวัชรชัย สมีรักษ์ อดีตปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ยกับพวกตั้งแคมป์ ประมาณ 300 เมตร และห่างจากป้ายทางเข้าสำนักสงฆ์เต่าดำ 30 เมตร นายสกานต์เป็นผู้ใช้อาวุธปืนลูกกรด .22 ติดกล้องพร้อมเครื่องเก็บเสียง ยิงอีเห็น ไป 1 นัด แต่ไม่โดน

(ภาพทำแผนฯ นายตาต้า เล็งปืนยิงหมีขอ)
จุดที่สอง จุดที่มีการยิงหมีขอ บริเวณใต้ต้นไทรในป่า ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันกับจุดที่ยิงอีเห็น โดยล่าหมีขอบนต้นไทร ด้วยอาวุธปืนกระบอกเดียวกัน นายตาต้า ยืนยันว่า ตนเอง, อส.ออย และนายสกานต์ ไปล่าหมีขอ โดย นายตาต้า ยอมรับว่าเป็นคนใช้ปืนยิงเอง แต่เป็นเพราะถูก อส.ออย และนายสกานต์ ข่มขู่ โดย นายสกานต์ ทำหน้าที่ส่องไฟ ส่วน อส.ออย ทำหน้าที่เก็บซาก
“นายตาต้า ยืนยันระหว่างเดินทางไปทำแผนฯว่า นายอนุสรณ์ หรือ อส.ออย และนายสกานต์ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และบังคับข่มขู่ให้ตนเองพาไปล่าสัตว์ป่า”

(ภาพทำแผนฯ นายตาต้า รับปืน (ไม้ไผ่) จากนายสกานต์)
จุดที่สาม ด้านในสำนักสงฆ์เต่าดำ โดยนำไปชี้จุดชำแหละและจุดเผาซากหมีขอ บริเวณที่ก่อกองไฟ ริมลำห้วย หลังแคมป์ที่พักของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้พบชิ้นส่วนของซากสัตว์ เป็นส่วนของกรามปากด้านล่างของหมีขอ และขนของหมีขอ รวมทั้งเศษกระดูกและเครื่องในสัตว์ป่า และยังพบร่องรอยการทำครัว ซึ่ง นายจิระ และภรรยา ชาวเมียนมา ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการติดตามตัว คนงานในสำนักสงฆ์รับหน้าที่ชำแหละและเผา แล้วนำอุ้งเท้าหมีขอให้ อส.ออย รวมทั้งส่วนลำตัว สะโพกขา และหาง ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบระหว่างลาดตระเวนตรวจซ้ำเส้นทางของคณะออฟโรด

(อส.ออย ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ บริเวณสำนักสงฆ์เต่าดำ)
อย่างไรก็ตาม ยังเหลือจุดที่ต้องเดินทางไปทำแผนฯ อีก 2 จุด คือ จุดทิ้งซากหมีขอ ซึ่งอยู่บริเวณข้างขอนไม้ถนนฝั่งขวา (มุ่งหน้าไปทางหน่วย ทย.6 ) ห่างจากถนน 2.85 เมตร ห่างจากจุดที่กลุ่มออฟโรดของผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่อุทยานจับกุม ประมาณ 1.1 กิโลเมตร โดยกลุ่มผู้ต้องหาหลายคนอาศัยช่วงชุลมุนโยนซากสัตว์ป่าไปข้างทางเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นเจอ และอีกจุด คือ ศาลเจ้าพ่อเขาพลู ตามที่กลุ่มผู้ต้องหาระบุว่ายิงปืนแก้บน

(พ.ต.อ.สุวิทย์ ชาวศรีทอง รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี)
ด้าน พ.ต.อ.สุวิทย์ ชาวศรีทอง รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า วันนี้จะนำตัวนายตาต้า ไปขออำนาจศาลกาญจนบุรีฝากขังผัดแรก ส่วนนายจิระและภรรยาคนงานของสำนักสงฆ์เต่าดำ ที่ทำหน้าที่ทำครัว ซึ่งถูกออกหมายจับแล้วนั้น ยังอยู่ระหว่างติดตามตัว ทั้งนี้ พยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมได้ในขณะนี้ ค่อนข้างมั่นใจว่า จะสามารถเอาผิดกับผู้กระทำผิดได้ และหากพบว่า เกี่ยวข้องกับบุคคลใดจะต้องมาทำแผนเพิ่มเติมต่อไป เนื่องจากข้อมูลยังไม่ครบถ้วน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทีมพญาเสือหาจนเจอ! “ซากหมีขอ” ซุกถุงปุ๋ยกลางป่าไทรโยค-มัดข้อหา ‘ล่าสัตว์ป่า’
- เตรียมออกหมายจับมือชำแหละหมีขอ พร้อมเปิดภาพวงจรปิดขังแก๊งออฟโรด
- ศรีวราห์ ลั่นไม่เกิน 45 วัน สรุปคดีฆ่าหมีขอส่งอัยการ-เปิดประวัติสำนักสงฆ์เต่าดำ
- อส.ออย ซัดต่างด้าวคนยิงหมีขอ-พบตัว ‘ลุงปลัด’ แล้ว แจ้งเพิ่มเป็น 11 ข้อหา
- แจ้งจับ ‘ลุง’ ปลัดเอี่ยวล่าหมีขอ-อุทยานฯแก่งกระจาน หวั่นสัตว์ป่าออกมาหากิน
- ศาลให้ประกัน ปลัดอำเภอ กับพวก คดีล่าหมีขอ
- ฝากขังแก๊งออฟโรด-ล่าหมีขอบ่ายนี้ ตร.ค้านประกันตัว
- ‘ศศิน’ เชื่อแก๊งออฟโรดอ้างเข้าไปทำบุญ-ชี้สัตว์ป่ามีเฉพาะในเขตอุทยานฯ
- ลุยสแกนป่าไทรโยคเก็บหลักฐานมัด ‘แก๊งออฟโรด ล่าหมีขอ’
- คืบหน้า ฆ่าหมีขอ ! เผย “อดีตปลัด” มีเจตนาโกหก จนท. เพื่อเข้าเขตหวงห้าม
- เร่งพิสูจน์ซากอุ้งเท้าหมีขอ-ปลด “ปลัดร่วมแก๊งออฟโรด”
- ศรีสุวรรณ จี้ผู้ว่าฯ กาญจน์ ไล่ออก “ปลัด-อส.” ร่วมแก๊งล่าหมีขอ-นายกฯ ปัดตอบ
- รวบแก๊งออฟโรดล่า “หมีขอ” ในอุทยานแห่งชาติ พบปลัดอำเภอร่วมก๊วนด้วย
- แก๊งออฟโรด อ้างซื้อ ‘อุ้งเท้าหมีขอ’ จากชาวบ้าน-อุทยานฯ ไทรโยค แจ้ง 9 ข้อหา









