อดีตผู้ใหญ่บ้าน ที่ จ.สมุทรสาคร วัย 75 ปี บันดาลโทสะ ชักปืน .38 ยิงน้องเขย และหลานสาวบาดเจ็บ ก่อนยืนรอมอบตัวกับตำรวจ รับมีปัญหาขัดแย้งเรื่องที่
วันที่ 8 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้คุมตัว นายบุญเลิศ วรรณา อายุประมาณ 75 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มาสอบสวนยัง สภ.เมืองสมุทรสาคร หลัง นายบุญเลิศ ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายโอภาส รอดรัศมี ซึ่งเป็นน้องเขย และ นางประภาพร ตันชนานุสรณ์ หลานสาว ได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยหลังก่อเหตุ นายบุญเลิศ ได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นางบุญมา เครือวัลย์ ลูกสะใภ้ของ นายบุญเลิศ เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุตนเองกำลังขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านมาพอดี และได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แต่ตอนนั้นไม่คิดว่าพ่อจะที่เป็นคนยิงจึงขับรถผ่านไป สักพักมีคนโทรเข้าหาจึงได้กลับเข้ามาที่บ้านพ่อ เห็นพ่อนั่งอยู่รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ สำหรับคนที่ถูกยิงนั้น ก็เป็นน้องเขยและหลานสาวของพ่อ คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ดินที่แบ่งไม่ลงตัว ทำให้พ่อเกิดความเครียดสะสมมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งพ่อเป็นคนที่ไม่เคยพูดหรือเล่าอะไรให้ใครฟัง จึงไม่มีใครสนใจ ในอดีตสมัยที่พ่อเป็นผู้ใหญ่บ้านก็เคยมีคดียิงคนตาย แต่หลบหนีจนคดีหมดอายุความจึงกลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิม
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงบาดเจ็บที่บริเวณหลังวัดชีผ้าขาว ม.3 ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงเข้าไปตรวจสอบและพบผู้บาดเจ็บถูกยิงอยู่ภายในบ้านเลขที่ 30/1 ม.3 ต.ท่าจีนฯ จากนั้น นายบุญเลิศ ผู้ก่อเหตุได้เดินออกมามอบตัวและพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจยึดอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุภายในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าทีตำรวจได้พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่บริเวณใกล้เคียง จำนวน 5 ปลอก โดย นายโอภาส ผู้บาดเจ็บถูกยิงเข้าที่บริเวณท้องและขาทั้งสองข้าง ส่วน นางประภาพร ถูกยิงที่ต้นขา หลังถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรสาครและโรงพยาบาลวิภาราม
ทั้งนี้ นายบุญเลิศ ได้รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมระบุว่า ตนเองมีปัญหาเรื่องที่ดินกับ นายโอภาส มานานแล้ว ซึ่งบ้านของทั้งสองคนนั้นปลูกติดกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมหลักฐานก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
