
นายวันชาติ สันติกุญชร อธิบดีอัยการ
ประเด็นคือ – สำนักงานอัยการสูงสุดเร่งสรุปชี้ขาดสำนวนโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ เพิ่มเติมบางประเด็น หลังศาล เชื่อศาลจังหวัดพระโขนงรับฟ้องคดี นายบรรยิน เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน
วันที่ 15 ธ.ค. 2560 นายวันชาติ สันติกุญชร ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีศาลมีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องในคดีที่ครอบครัวนายชูวงษ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน คดีอยู่ในชั้นอัยการอยู่ 2 สำนวน

นายบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์
นายวันชาติ กล่าวว่า สำนวนเเรกคือ คดีที่กล่าวหานายบรรยิน ปลอมเเปลงเอกสารเรื่องการโอนหุ้นประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่ฟ้องนายบรรยิน เเต่ผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ มีความเห็นแย้งสั่งฟ้อง โดยตามกฎหมายเเล้วจะต้องส่งให้อัยการสูงสุดชี้ขาด แต่ขณะนี้สำนวนอยู่ระหว่างการพิจารณาของรองอัยการสูงสุดที่ได้รับมอบหมายให้พิจารณากลั่นกรองก่อนเสนออัยการสูงสุดชี้ขาดต่อไป

แฟ้มภาพ ครอบครัวเสี่ยชูวงษ์ร้องกองปราบ
ส่วนอีกสำนวนอยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ หรืออัยการศาลจังหวัดพระโขนง คือสำนวนคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ในสำนวนบางส่วนมีเหตุความเชื่อมโยงกับสำนวนคดีเรื่องการโอนหุ้นที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของอัยการสูงสุดอยู่ จึงเป็นเหตุว่าอัยการศาลจังหวัดพระโขนงต้องรอคำสั่งอัยการสูงสุดเพื่อนำไปประกอบการสั่งคดีฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วย
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า สำนวนที่มีความสำคัญ และมีความเห็นต่างกันระหว่างพนักงานอัยการเเละพนักงานสอบสวน จำเป็นต้องใช้ความละเอียดถี่ถ้วนในการพิจารณา เนื่องจากการกล่าวหาว่าการฆ่านั้นมีเหตุจูงใจมาจากการปกปิดการกระทำผิดอื่น จึงเป็นการไตร่ตรองเมื่อจะดูว่าเป็นการกระทำผิดเพื่อมูลเหตุนั้นหรือไม่ก็ต้องรอ อสส. สั่งคดีนี้ด้วย อีกทั้งยังต้องรอพนักงานสอบสวนสอบเพิ่มบางประเด็นมาพิจารณา









