ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาเพิ่มโทษจำคุกจำเลยคดีขับรถชนนิสิต นิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเสียชีวิต บริเวณใต้ต่างระดับบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อปี 2559 ฐานเสพแอมเฟตามีนขับรถเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ที่เกิดเหตุ (แฟ้มภาพ)
วันที่ 8 พ.ค. ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ในคดีอาญาหมายเลขคดีดำที่ อ.1528/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อ.2443/2560 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โจทก์ฟ้อง นายเจนภพ วีรพร ขับรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ ชนรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด จนเป็นเหตุให้ นายกฤษณะ ถาวร และ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย ถูกไฟคลอกเสียชีวิตทันที เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2559
โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษา ลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน และ ไม่รอลงอาญา
โจทก์และโจทก์ร่วมที่ 3 และ ที่ 4 ได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เพิ่มโทษจำคุกจำเลย และ ในวันนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย โดยแก้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้เพิ่มโทษ ตามที่โจทก์ และ โจทก์ร่วมที่ 3 และ ที่ 4 อุทธรณ์
โดยศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ฐานเสพแอมเฟตามีนขับรถเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ด้วยการลงโทษจำคุก 6 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้บางส่วน เหลือลงโทษจำคุก 4 ปี และไม่รอลงอาญา
นายวิเชียร ชุบไธสง ทนายความของนายทิวากร ฮ้อแสงชัย และ นางกมลรัตน์ ฮ้อแสงชัย โจทก์ร่วมที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของน.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า การอุทธรณ์ขอเพิ่มโทษจำเลยเพราะต้องการทำให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานทางสังคมต่อไป
ขณะที่ ทนายความ และ ญาตินายเจนภพ ได้ยื่นขอประกันตัว แต่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่รับ พร้อมส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งหากศาลฎีกาไม่ส่งเรื่องกลับมาก็จะต้องส่งตัวนายเจนภพเข้าเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนกว่าจะมีคำสั่งของศาลฎีกา
ข่าวย้อนหลัง









