
เลขาธิการแพทยสภาตรวจสอบย้อนหลัง 10 ปีไม่มีคดีหมอสูตินาทีแพทย์ข่มขืนคนไข้ แต่หากผิดจริงสูงสุดถึงขั้นเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ
วันที่ 16 พ.ย. พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ กรณีที่มีหมอรายหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนคนไข้สาวขณะตรวจภายใน โดยมีการเปิดเผยบทสนทนาในแชทไลน์ระหว่างหมอและคนไข้สาวเรื่องของการจ่ายเงินแลกกับการถอนแจ้งความ
เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า กระบวนการตรวจสอบมี 3 ส่วน คือ 1.ส่วนของคดีอาญา ที่ผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความจะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในพื้นที่ รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฏหมาย
2.ด้านจริยธรรมทางการแพทย์ ที่เป็นหน้าที่โดยตรงของแพทยสภาในการตรวจสอบเรื่องนี้ โดยขณะนี้ทางแพทยสภาเตรียมข้อมูลที่ได้ทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าผู้เสียหายต้องการให้แพทยสภาดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งต้องรอให้ผู้เสียหายเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง
3.ความประพฤติและวินัยของบุคลากรทางการแพทย์ จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขหรือต้นสังกัดดำเนินการตรวจสอบ หากพบว่าผิดจริงก็จะมีการลงโทษตามระเบียบขั้นตอนต่อไป

เลขาธิการแพทยสภากล่าวต่อว่าจากข้อมูลของราชวิทยาลัยสูตินารีแพทย์พบว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ากรณีเฉพาะที่จะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งหากพบบุคลากรทางการแพทย์รายนี้ผิดจริงก็จะต้องลงโทษตามความเหมาะสมต่อไป ตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือนไปจนถึงการเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ
ส่วนประชาชนที่ติดตามข่าวนี้ไม่อยากให้กังวลจนไม่กล้าไปตรวจกับสูตินารีแพทย์ เพราะการตรวจยังเป็นเรื่องจำเป็น ทั้งการฝากครรภ์ หรือสำหรับผู้ที่อายุมากว่ามีโรคอะไรหรือไม่เพื่อป้องกันและรักษา โดยอาจจะเลือกตรวจกับคุณหมอผู้หญิงได้ หรือถ้าคุณหมอผู้ชายตามหลักต้องมีพยาบาลหรือมีสตรีอยู่ด้วย
“พอมีข่าวขึ้นมาบางคนเกิดความกลัวในการไปตรวจกับหมอสูติฯ ต้องเรียนว่าการตรวจภายในของสูตินารีแพทย์ต่อปีมีหลายล้านครั้ง ต่อวันเป็นหมื่นครั้ง ที่ผ่านมาในรอบ 10 ปีไม่มีคดีแบบนี้เกิดขึ้น นั้นหมายความว่าคุณหมอเองยังยึดมั่นอยู่ในคุณธรรม ศีลธรรม จรรยาบรรณเป็นอย่างดี ปัญหาแบบนี้ไม่ได้เกิดในภาวะปกติ กรณีนี้เป็นกรณีเฉพาะที่ต้องมาหาสาเหตุว่าเพราะอะไร … อย่าใช้เหตุการณ์นี้เหตุการณ์เดียวเป็นเหตุให้กลัวไม่ไปตรวจรักษา “









